diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

17.11.2004 - 2:32 p.m.

ขอโทษที่หายไปนาน

ตั้งแต่เปิดเทอมมานี่ ยุ่งมาก ต้องเตรียมสอน ฉันอยากสอนให้ได้ดีที่สุด อยากให้เด็กได้มากๆ ก็จะเตรียมโน่นนี่ ยุ่งจนไม่มีเวลาเล่นเน็ต คือเปิดเน็ตก็ต้องค้นความรู้ทางวิชาการ

ไดอะรี่ ที่ระบาย

เวลาที่เขียนได ส่วนมาก ฉันอยากเขียนเรื่องขำๆให้เพื่อนๆได้อ่านกันมากกว่า แต่พอบางทีมีเรื่องอะไรในใจ ได้ระบายโดยเขียน มันก็เหมือนกับเราได้จัดระบบความคิดอย่างนึงเหมือนกัน อีกอย่าง ก็ได้คอมเมนต์จากเพื่อนๆเพิ่มมาช่วยด้วย รู้สึกดีขึ้นไปอีก

วันนี้มีเรื่องหนักใจมาก ไม่เคยเกิดเรื่องอย่างนี้มาก่อนตั้งแต่ทำงานครูมาเลย เมื่อวาน มีเด็กที่สอน2คน เดินมา บอกว่า จะเขียนหนังสือวิชาที่ฉันสอนออกมาขาย (ด้านที่ฉันสอนมันค่อนข้างดังไง แต่ว่ายังไม่มีหนังสือออกมาในตลาด ส่วนมาก ครูเค้าก็ใช้ตำราเมืองนอกกัน) เนื้อหาที่เด็กจะเขียนก็มีที่ฉันสอน แล้วก็เอางานโปรเจ็กที่ฉันให้แบบฝึกหัด แล้วก็เพิ่มเนื้อหานิดหน่อย ออกมาขาย เห็นว่าแบ่งกัน ทำคนละบทสองบท(เด็กที่ฉันสอนทั้งชั้น)

เมื่อวานฉันก็ได้แต่บอกเด็กไปว่า ครูก็จะเขียนหนังสือในเรื่องนี้เหมือนกัน

การที่เด็กเอาสิ่งที่ฉันสอนมาดัดแปลงเขียนเป็นตำรา มุมมองของเด็ก อาจจะคิดว่า ครูเอามาจากตำราต่างประเทศ ผมก็ถือว่าผมเอามาจากตำรา ผมแค่เรียนจากครู

มุมมองของฉันก็คือ ฉันอ่านตำราเมืองนอกมาไม่รู้กี่เล่มต่อกี่เล่ม ฉันเอามาสรุป เรียงลำดับ ให้ต่อเนื่อง เพื่อจะมาสอน ฉันให้งานแต่ละชิ้น เพราะฉันรู้ว่าเอามารวมกันแล้วจะได้โปรเจ็กออกมา แต่เด็ก มาเรียน ฟังเล็กเชอร์ เอาของครูไปแปลงนิด ใส่นั่นหน่อย เอามาเขียนหนังสือ จะมาออกขายรุ่นน้อง (อ๋อ เหรอ!) อีกหน่อยฉันก็ต้องออกตำราทางวิชาการออกมาเหมือนกัน ถ้าฉันออกช้า กลายเป็นว่า ฉันลอกของเด็กเหรอ

เท่าที่ฉันทำแข่งได้ คือต้องรีบเขียนตำราแบบลวกๆออกมา เพื่อมาตัดหน้าเด็กเหรอ

เมื่อวานนี้เครียดมาก นอนไม่หลับเลย ทั้งๆที่ไม่เคยนอนไม่หลับมาก่อนเลยอ่ะ คือฉันมองว่า ฉันสอนวิชาต่อพวกมันด้วย นี่สอนตัวแรกมัน มันทำกับฉันอย่างนี้ สอนตัวที่สอง กูสอนไป มันคงลอกไปสนุกสนาน สอนจบ มันคงได้ตำรามา 1 เล่มใหญ่พอดี ฉันไม่คิดว่าความทุ่มเทเกินร้อยที่ฉันให้กับเด็กมันจะมาสนองฉันอย่างนี้เลย

ทำไมฉันถึงอยากมาเป็นครู ฉันเรียนจบคณะที่พวกเราเรียนนี่ เพื่อนฉันจบตรีได้เงินเดือนกันกี่หมื่นจบโทได้เป็นแสน เงินเดือนมากกว่าฉันสิบเท่า ฉันเรียนจบโท สาขาเฉพาะทางที่ว่านี่ ตลาดต้องการสุดๆ ฉันไม่เอา ฉันอยากสอนหนังสือ เพราะฉันคิดว่าฉันรู้มากก็ควรทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติ และให้เด็กๆ ฉันไปเรียนเอก ฉันก็ไม่ได้ใช้เงินที่ทำงานฉันซักบาท ฉันไม่ได้จำใจต้องสอนเพราะติดทุนเหมือนคนอื่น แต่ฉันจบกลับมา มาสอนหนังสือ ก็เพราะรักไง บ้านฉันอยู่ไกลจากที่ทำงาน ขับรถก็เป็นชั่วโมง อาจจะเกิน ฉันก็อุตส่าห์มาอยู่หอพักครู ฉันทุ่มเทให้กับการสอน อยากให้เด็กเรีบนสนุก รู้เรื่อง ได้ดี

ฉันอาจจะไม่ใช่ครูที่สอนดีที่สุดในโลก แต่ว่าฉันก็ตั้งใจสอนไม่แพ้ใครในโลกนะ

ทำไมเด็กถึงทำกับฉันอย่างนี้ล่ะ

วันนี้ฉันเรียกเด็กมาคุยกันอีกครั้ง ฉันบอกว่าฉันไม่ได้ห้ามไม่ให้เขียนหนังสือนะเพราะว่าการมีความคิดที่ดีก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ว่าคุณเขียนจากมุมมองของคุณโดยที่ไม่ใช่มุมมองของครูสิ อย่างแบบฝึกหัดที่ครูสั่ง ครูก็คิดมาไงว่าจะให้ทำยังไงถึงน่าสนใจ ถ้าไม่ใช้ความคิดครูแล้วเขียนขึ้นมาเองสิ นั่นเป็นสิ่งที่ดี

เด็กมองว่า ยังไงพวกเราก็จะทำ ที่ผมเอามา ก็เอาโน่นนี่มาแปะของครู เป็นวิธีการใช้งาน ถ้าครูเขียนหนังสือออกมา ก็คงเป็นทฤษฎี พวกผมอยากทำหนังสือราคาถูกออกมาช่วยรุ่นน้อง

ฉันบอกว่า ครูจะเขียนเป็นทฤษฎีล้วนได้ยังไงล่ะยังไงก็ต้องมีตัวอย่างโปรเจ็ก ยังไงก็เหมือนที่สอนพวกเธออยู่ดี

ฉันถามพวกเขาไปว่าคุณคิดจะทำขายรุ่นน้อง แล้วคุณไม่คิดเหรอว่า แบบฝึกหัดที่ครูสั่งไปทั้งหมด เราทำเฉลยโปรแกรมหมดแล้ว ครูจะไปสอนอะไรอีกล่ะ คิดว่าจะให้รุ่นน้องได้จริงหรือ

เด็กไม่ฟังฉันเลย แล้วฉันยังต้องสอนเด็กพวกนี้ต่อด้วย ฉันไม่ไหว เหมือนแม่ค้าขายขนม สอนให้เด็กข้างบ้านทำขนม รู้ว่าพอสอนเสร็จ เด็กมันก็เอาสูตรเรามาขายขนมหน้าบ้านมัน รู้ทั้งรู้ก็ต้องทนสอนเหรอ

ฉันไม่อยากสอนแล้วเด็กกลุ่มนี้ แต่ น้าและ ม ด่าฉันว่าฉันเห็นแก่ตัว
แต่พวกพี่ที่ทำงานที่เป็นครูด้วยกันเห็นด้วยนะ บอกว่าศิษย์คิดล้างครูอย่างนี้ ไม่ต้องเต็มร้อยแล้วล่ะ พี่เค้าบอกให้สอนไปแกนๆ มึงแน่ มึงทำเอง

ฉันท้อมากเลยว่ะ ฉันอยากเลือกเห็นแก่ตัวอ่ะ

จาก ฉันผู้คิดอะไรไม่ออกเลย

previous - next