diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

2002-04-05 - 11:07 p.m.

เมื่อวานฉันไม่ได้มา...ว ที่ไม่ได้มาเล่าต่อเพราะว่ากว่าจะเลิก โนมิไก ก็ดึกมากแล้วล่ะ

เลยเก็บมาเล่าวันนี้เลย เมื่อวานยังไม่ได้เล่าถึงรายละเอียดว่าโนมิไกของที่แลปฉันเนี่ยเป็นยังไง ก็ต้องเล่าถึงแล็บฉันด้วยว่าหน้าตาเป็นยังไง ญี่ปุ่นนีในภาควิชานึงๆก็จะแบ่งออกเป็น แล็บ ซึ่งแต่ละแลปเนี่ยก็จะมีโปรเฟสเซอรใหญ คนนึงคุมแล้วก็มีอาจารยเด็กๆอีกกี่คนก็แล้วแต่แล็บ แล็บของฉันมีอาจารยใหญ อาจารยดันดี(ซื่งแกจะชอบแต่งตัวเหมือนคาวบอย) แล้วก็อาจารยสุดหล่อ(อันนี้เพื่อนคนไทยจากแล็ปอื่นมาตั้งให พวกนี้หลงเสน่หจารยทั้งนั้นเลย) แล้วก็เด็ก ปีสี่ที่ต้องทำโปรเจกต ปีสุดท้าย แล้วก็เด็กป.โท กัยป.เอก

โนมิไกซึ่งปกติแล้วก็จะจัดกันที่ร้านเหล้าที่ขายอาหารด้วย (คงเหมือน pub ของไทย)ปกติเวลาไปโนมิไกก็ไปกันทั้งแลปรวมทั้งอาจารย 3 ด้วย คนที่ติดต่อเรื่องสถานทีก็จะเป็นเด็กป.โท ปีหนึ่ง ปีนี้เด็กปีหนึ่งที่เป็นคนดูแลเรื่องจัดงาน ก็ประมาณว่าเด็กเที่ยวสุด เลยเริ่มโนมิไก กันที่งานฮานามิซะแล้ว ก็ตั้งแต่ฉันมาอยู่แลปนี้ได้ตั้ง 2 ปีครึ่งแล้วยังไม่มีเด็กร่นไหนจัดมาก่อนเลย เฮ้อ เนี่ย สงสัยจะจัดถี่ชัวร(มันเอาแน)

ครั้งแรกที่ฉันไปโนมิไก ก็นั่งข้างอาจารย กับ เพื่อนคนจีนในแล็บ เพราะว่าเป็น 2 คนในแล็บที่พูดภาษาอังกฤษคล่องสุด เวลาเริ่มงานถ้าเป็นงานต้อนรับเด็กใหมเด็กใหม คือฉันตอนนั้น) ก็ต้องแนะนำตัว แล้วอาจารยใหญ่ก็ต้องพูดปิดเล็กน้อย แล้วก็ชวน คัมไปจำไว้พูดเวลาชนแก้วกับคนญี่ปุ่น นะเออ) จะสังเกตุได้เลยว่า คนญี่ปุ่นจะต้องเริ่มชนแก้วด้วย เบียรเสมอ (ย้ำ) เสมอ ฉันก็ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน แม้ว่าบางที่ดื่มเป็นพิธีแค่แก้วเดียว แล้วต่อจากนั้นก็พากันดื่มเหล้าญี่ปุ่น ถาม M แกก็ตอบว่าสงสัยเพราะว่าเบียรแพง เลยดื่มแค่แก้วแรก เพราะถ้าดื่มจนเมาคงแพง ฉันก็เลยถามว่าแล้วทำไมต้องเป็นแก้วแรกล่ะ ก็ดื่มเหล้าญี่ปุ่นแต่ต้นเลยดิ? M บอกว่าไม่ร้เหมือนกัน แบบว่าบางทีแกไม่ค่อยร้อะไรเกี่ยวกับญี่ปุ่นเลยน่ะ บางทีฉันยังต้องสอนแก

หลังจากดื่มหลัง"คัมไป"แล้ว ก็เริ่มทานอาหาร(อันนี Jaew Rose ไม่ต้องห่วงเน้อ ได้ทานค่ะ ได้ทาน) อาหารเนี่ยก็แล้วแต่ร้านที่น้องจองได้ ส่วนมากก็เป็นแบบกับแกล้มของญี่ปุ่นแหละ (ไปทีเนี่ยต้องจ่ายเงินประมาน 1,000 บาท/คน) ที่ฉันแปลกใจก็คือ อาจารยนี่จะเป็นกันเองมากเลยเวลามาโนมิไก อาจารยไทยเนี่ยไม่มีน่ะเนอะที่แบบจะมานัดเด็ก ดื่มเหล้ากันเป็นกิจลักษณะเช่นนี

แล็บฉันเนี่ยที่จี้มากเลยคือ อ.สุดหล่อ แกชอบดื่มมาก แต่ว่าคออ่อนน่ะ จารยเค้าเมาหัวทิ่มตั้งแต่งานยังไม่เลิกแล้ว ทีนี้พอเลิกงานแรก น้องคนจัดก็จะมารวบรวมรายชื่อว่าจะมีใครไปต่อมั่ง บางทีก็ไปต่อคาราโอเกะกัน บางทีก็ไปต่อ ร้านเหล้าต่อ (ที่นี่เค้าเป็นธรรมเนียมว่าจะนั่งที่นึงไม่นาน รอบแรกก็นานหน่อย อาจซัก 2-3 ชม แต่ว่ารอบต่อไปก็นั่งกันแคชั่วโมง ครึ่งชม) บางทีไปต่อกัน 4 ร้านก็มี(รอบนึงจ่ายต่ออีกเป็นพัน) เค้าไม่นั่งกันจนร้านปีดเหมือนเมืองไทย แปลกดี แล้วอ.สุดหล่อซึ่งเมาจนเดินไม่ไหวแล้วเนี่ย(นักศืกษาต้องหิ้วปีก) ก็เป็นตัวตั้งตัวตีไปต่อรอบ 2, 3 กับเค้าทุกครั้ง (นอกจากเรื่องคออ่อนเนี่ยเรื่องอื่นแกดีมากเลย ไว้วันหลังเผาแกต่อดีกว่า)

ยังมีธรรมเนียมโนมิไกอีกมากเลย เข่น จะต้องไม่รินเบียรให้ตัวเอง ต้องผลัดกันรินให้กัน แล้วรุ่นน้องก็ต้องคอยดูแลแก้วให้รุ่นพี่มิให้ว่าง (ให้อาจารย) แล้วยังมีเกี่ยวกับที่นั่งด้วย เข่น ต้องเว้นที่ให อ.ใหญ นั่งไกลประตูทางเข้าที่สุด ยังมี ควรเดินไปชนแก้วกับอาจารย ถ้านั่งไกลจารยแต่ว่าแล็บฉัน จารยใจดี ไม่ค่อยถืออะไร ฉันซึ่งตอนหลังปีกกล้าขาแขง พูดภาษาได้แล้ว ก็เริ่มจับค่นั่งกับน้องผ้หญิง(มีผู้หญิงแค 2 คนแหละ) นั่งไกลจารย บางทีอ.ใหญ ก็เดินมาขอชนแก้วกับฉันก็มี

ว่าแล้วเชียวว่าลืมอะไร เล่าไปเล่ามาเลยยาว ลืมเขียนเรื่องดื่มเมึ่อวานซะสนิทเลย เนี่ยนึกถึงเรื่อง pub crawl ขึ้นมาไดไว้วันหลังเขียนเรื่องนี้ด้วยดีกว่า

previous - next