Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil
08.04.2002 - 6:55 p.m.
เมื่อวานดูทีวี สารคดีเรื่องราวเกี่ยวกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของอิตาลี เค้าก็ให้ดูสถานที่ที่ใช้ถ่ายทำ ฉันก็ไม่เุคยไปฮอลลีวูด(บอลลี่วูด ของอินเดียก็ไม่เคยไป) แต่ว่าดูโรงถ่าย ของอิตาลีแล้วมันดูเหมือนโรงงาน ไม่ดูใหม่ยิ่งใหญ่เท่ากับฮอลลีวูดเลย แล้วก็เก่าๆ ซึ่งก็แน่นอนว่ามันต้องเก่า เพราะว่าโรงถ่ายตั้งอยู่ที่โรม ซึ่งจะมีกฏหมายห้ามสร้างตึกใหม่ และห้ามทำลายของเก่า โรงถ่ายที่ว่า ถูกสร้างขึ้นโดยมุสโสลินีแน่ะ เห็นได้ว่าุ อิตาลี เค้าให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมภาพยนตร์มาก
พอดูภายในเนี่ย มันใหญ่โตมากๆ มีการสร้างฉากมากมายในนั้น เช่น เรื่อง เบนเฮอร์ ก็สร้างฉากที่นี่ หนังมากมายหลายเรื่องทั้งใหม่ทั้งเก่า ก็เป็นการจัดฉากทั้งนั้นเลย รวมทั้งเรื่อง ซีเนมา พาราดิสโซ ด้วย สารคดีนี้เค้าก็ไปสัมภาษณ์ คนที่เล่นเป็นโตโต้ตอนเด็ก หน้าเค้าเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลย แต่ว่าอายุ 19 แล้ว เค้าบอกว่าเค้้าเล่นหนังเรื่องนี้เมื่อตอนเุค้า 9 ขวบ ซึ่งมันก็ผ่านไป 10 ปีแล้ว โห แบบว่าฉันงงๆ เลยว่าเวลามันช่างผ่านไปรวดเร็ว(ผู้กำกับเบนเฮอร์ก็ยังอยู่ อายุ 89 แล้วแต่ว่าแต่งตัวเท่ห์ระเบิดอยู่ิเลย ขอแอ็ดเล็กน้อยว่า ผู้ชายชาตินี้ ฉันสรุปให้ได้ว่า มี 2 แบบ คือ หล่อมาก กับ อ้วน แบ่งได้ 2 กลุ่มเท่านั้นจริงๆ แล้ว 2 กลุ่มก็ไม่มี อินเตอร์เซคชั่นกันด้วยนะ ฉันยังอดขำไม่ได้)
ในโรงถ่ายนี้ก็ยังเป็นโรงเรียนด้วย เค้าให้คนทำหนังจริงๆ มาสอน เช่น ผู้กำกับฉาก ก็จะมีลูกศิษย์มาเรียนด้วย คอร์สนึงจำกัดคนน้อยแค่ 8 คน เ็ด็กผู้หญิงคนนึงที่มาเรียนคอร์สการจัดฉาก เล่าว่า "เธอเรียนที่นี่มาได้ 2 ปีแล้ว มาเรียนทุกวันไม่มีวันหยุดเลย (ฟังแค่นี้ก็สงสารเค้า ว่าทำไมโรงเรียนมันถึงได้โหดจัังฟะ) แต่ฉันก็ใจจดใจจ่อมากที่จะมาเรียนทุกวันและก็ไม่อยากให้มีวันหยุดเลยเหมือนกัน" แล้วสารคดีก็จบ
ฉันว่าสารคดีจบได้ดีมากเลย ฟังเด็กคนนี้พูดจบแล้วฉันก็อึ้ง เค้าช่างค้นพบตัวเองและสิ่งที่เค้าชอบได้ ช่างเก่งเหลือเกิน ฉัน จนป่านนี้แล้ว ยังไม่เคยพบว่าการที่ทำอะไรแล้วมีความสุขมากๆ ขนาดเค้าเนี่ยมันเป็นยังไงเลย ฉันว่าฉันก็ชอบการสอนหนังสือนะ เด็กๆ น่ะน่ารัก แต่ว่า ฉันก็มีความสุขเมื่อปิดเทอม หรือ เสาร์ อาทิตย์ที่ไม่ต้องสอนเหมือนกัน
คิดถึงเรื่องซิเนมา พาราดิโซ ฉันได้ดูหนังเรื่องนี้เมื่อนานมากแล้ว ประมาณ 7 ปีก่อนได้มั๊งจำได้ว่า ดูหนังเรื่องนี้จากช่องเจ็ด(จริงๆ นะ ช่องนี้เค้าก็มีการคืนกำไรผู้ชม บ้าง.. เหมือนกัน) แต่ว่าเอามาฉายตอนตี1 ได้ ตอนนั้นฉันไม่รู้จักหนังเรื่องนี้หรอก แล้วมันเริ่มฉายดึกมาก ฉันก็นอนดูไปเรื่อย รู้แต่ว่าหนังสนุกมากเลย กว่าจะจบก็ตีอะไรแล้ว แต่ดูได้จนจบไม่หลับ ทีนี้พอฉันรู้จักกับ M ได้ใหม่ๆ (นาน.. มาก.. เหมือนกัน) ก็หาทอปปิกมาคุยกันตามประสา พอฉันถามถึงหนังในดวงใจของ M เค้าก็บอกฉันว่า คือเรื่อง ซิเนมา พาราดิโซ เป็นหนังอิตาลี ฉันก็แบบว่า พยายามนึกแล้วก็ถามเค้าว่ามันเป็นยังไงนะ ใช่เรื่องที่ฉันดูรึเปล่า ก็ปรากฏว่ามันเรื่องที่ฉันดู ฉันเลยแบบว่าดีใจมาก ก็แหมตอนนั้นน่ะเคยดูหนังต่างประเทศก็ไม่มาก แล้วหนังที่ฉายตีหนึ่งเนี่ย ฉันก็ไม่ค่อยได้ดูอยู่แล้ว ดันได้ดูหนังที่ M ชอบด้วย เราเนี่ยดวงสมพงษ์กันจริงๆ(ฉันคิดเอาเองตอนนั้น) ^_^
�