diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

07.09.2002 - 6:14 p.m.

Benlontaikai = Speech Contest = ประกวดสุนทรพจนE

เมื่อปีที่แล้ว ฉันถูกผู้ใหญ่ขอร้อง ให้ไปประกวดสุนทรพจนภาษาญี่ปุ่น โดยบอกล่วงหน้ามาไม่กี่วัน ความสามารถระดับฉัน บวกกับความขี้เกียจ แต่ว่าปฏิเสธไม่ไดEทำให้ฉันจำใจ ต้องใช้มาสะ ให้เขียนให้ทั้งหมด แล้วฉันก็มีหน้าที่ไปยืนอ่าน เนื้อหาที่มาสะเขียนใหEก็เป็นทำนองว่า ทำไมฉันถึงได้เลือกมาเรียนที่นีEแล้วกลับเมืองไทยจะไปทำอะไร เรียกได้ว่าเนื้อหาน่าเบื่อสุดสุด แต่ว่าบ่นไม่ไดEเพราะว่าฉันอยากไม่ทำเอง ทีนี้ตอนไปประกวด ยิ่งแย่ไปใหญEฉันตื่นเต้นจำไม่ได้เลยว่าควรพูดอะไร อยู่ดีดีก้ออ่านที่ต้องพูดไม่ออกไปเฉยเฉย นิ่งอยู่นาน ในขณะที่คนอื่นท่องจำได้หมด พูดเรืองเศร้า เรื่องสันติภาพ ถ้าประกวดใครแย่ที่สุด ฉันคงได้ที่หนึ่ง

แต่ความรู้สึกเกี่ยวกับการประกวดสุนทรพจนสำหรับฉันไม่ได้แย่หรอก ฉันคิดว่าฉันได้เรียนรู้ภาษาญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นมาก จากที่ฉันต้องฝึกเพื่อไปพูด ฉันยังคิดเลยว่าถ้ามีโอกาศอีก ฉันอยากลองเขียนเรื่องที่ฉันรู้สึกเกี่ยวกับญี่ปุ่นด้วยตัวฉันเอง จะได้แก้แค้นที่ไม่ได้เตรียมตัวเลย

และแล้วโอกาศก็มีมาอีก ฉันไปเจอผู้ใหญ่ที่รู้จักซึ่งได้ขอให้ฉันบอกเพื่อนเพื่อนนักเรียนต่างชาติเกี่ยวกับการประกวดสุนทรพจนปีนี ฉันก็เลยพูดไปว่าอยากประกวดด้วยเหมือนกันถ้ามีเวลา เมื่อสักเดือนก่อน ฉันก็เลยได้รับแจ้งว่าจะมีการประกวดเมื่อไหรEฉันก็จัดการไปกระจายข่าว แต่ว่าก็ยังไม่แน่ใจว่าจะประกวดไหม และแล้วก้ออย่างเคย ฉันก็ขี้เกียจอีก มาเขียนเรื่องเอาวันสุดท้ายก่อนกำหนดต้นฉบับที่จะต้องส่งโดยมีมาสะช่วย และช่วยบ่นที่ฉันมาทำวันสุดท้ายทุกที แล้วปรินเตอรที่บ้านก้อดันเสียพอดี วันรุ่งขึ้นรีบไปปรินที่โรงเรียนแผ่นที่เอาไปก้อดันเสีย ต้องกลับบ้านมาอีกรอบกว่าจะได้ส่งต้นฉบับ เฮ้อ

ครั้งนี้ฉันคิดว่าตัวเองมีเวลาเหลือเฟือ ตั้งสองอาทิตยกว่าจะประกวด จำวันละนิดที่จะพูด ถึงเวลาก็คล่องปรE แต่ว่าทำตามแผนการไปได้แค่ไม่กี่วัน ก้อขี้เกียจ ผลัดไปผลัดมาก็จะถึงวันแข่งพอดี มาสะเลยปลอบว่า แค่ประกวดระดับจังหวัดเอง ไม่ใช่ระดับประเทศซะหน่อย อ่านเอาเหอะ ฉันเลยเชื่อลูกยุ ไม่ท่องไม่เทิ่งมันละ อ่านเอา แต่ว่าฉันก็มั่นใจกว่าคราวที่แล้วมากนะ ว่าคราวนี้ฉันจะทำได้ดีกว่าคราวที่แล้ว เพราะว่ามันเป็นเรื่องที่ฉันเขียนเองเป็นสไตลฉันเองน่ะ (คือว่าแนวตลก)

วันนี้ประกวด เค้าให้ไปเตรียมตัวก่อนยังพูดติดขัดอยู่เลย ตื่นเต้นคิดว่าพูดไปดูกระดาษไป แต่ว่าเน้นท่าทาง กับน้ำเสียงดีกว่า พอเวลาประกวด ฉันก็พูดติดขัดเหมือนกัน ตื่นเต้น แต่ว่าคนดูหัวเราะมุขฉันกันเป็นระยะระยะ ฉันก้อคิดว่าฉันทำได้อย่างที่ฉันอยากทำแล้ว พูดให้คนฟังคล้อยตามและสนุกไง

พอจบ ก็คิดว่าตัวเองพูดได้ห่วยเหมือนเดิม เพราะเปนคนเดียวที่มองกระดาษเวลาพูด แต่ว่าก็ลุ้นที่สองอยู่ในใจนิดหน่อยนะ

ตอนที่กรรมการจะบอกผล ก้อมีแสดงความเหนของแต่ละกรรมการ เค้าชมว่าฉันพูดได้มีเสน่ห พูดแบบมีหัวเรื่องย่อย(ฉันเขียนเปนภาษาอังกฤษก่อนไง เลยเขียนแบบ compare and contrast) แล้วชมว่าฉันมองญี่ปุ่นด้วยตาหูและความรู้สึกน่ะ ปลื้ม

ปรากฎว่า ผลออกมาฉันได้ที่หนึ่งล่ะ คนจีนที่เก่งภาษาญี่ปุ่นมากได้ที่สอง เค้าพูดเรื่องเศร้าแนวชีวิตรันทด ซึ่งฉันนึกว่าเค้าจะได้ที่หนึ่งซะอีก ก้อเป็นอะไรที่พลิกความคาดหมายนะ ฉันก้อได้คำตอบด้วยว่าพูดสุนทรพจนแนวตลกอย่างฉัน คนก้อชอบเหมือนกันแฮะ ไม่ใช่ต้องแนวซีเรียสอย่างเดียว

ตอนนี้ฉันก้อเหมือนสาวงามผู้ชนะการประกวดประจำจังหวัด เดือนหน้าก็ต้องไปประกวดประจำภาคต่อไป (คราวนี้เลี่ยงไม่ได้แล้ว คงต้องพยายามท่องจำให้ได้หมด)

previous - next