diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

18.04.2002 - 5:23 p.m.

วันนี้ขอนึกถึงความหลังครั้งยังเด็ก ตอนที่เรียนประถม ตอนนั้นโรงเรียนฉันอยู่แถวบางลำพู บ้านที่พ่อกับแม่อยู่น่ะอยู่แถวถนนราชดำเนิน แต่ว่าฉันไม่ค่อยจะผูกพันกับมันซักเท่าไหร่ เพราะว่าพวกเราแค่ไปนอนที่นั่น พอตื่นเช้ามา อาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้ว พ่อกับแม่ก็พาฉันไปบ้านยาย ซึ่งอยู่แถวบางลำพู แล้วพ่อกับแม่ก็ต้องรีบไปทำงาน ฉันก็กินข้าวแล้วก็ไปโรงเรียน จากบ้านยายไปโรงเรียนน่ะ ระยะทางเดินประมาณ 10 นาทีได้ แต่ว่าเนื่องจากฉันเป็นลูกคนเดียว พ่อกับแม่ และ ยาย และน้าๆ(ซึ่งตอนนั้นยังอยู่กับยายกัน) ก็พากันเป็นห่วงอย่างมากเกินเหตุ (ติดมาจนกระทั่ึงถึงตอนนี้) ฉันก็ไม่ได้เดินไปโรงเรียนคนเดียว ต้องมีคนใช้ไปส่งทุกครั้ง (ไม่อยากเรียกพี่เค้าอย่างนี้เลย มันดูศักดินา ยังไงไม่รู้ แต่ถ้าจะเรียกว่า พี่เลี้ยง ฉันก็รู้สึกว่าตัวเองเป็นคุณหนูอีก ทั้งๆที่มันไม่ใช่น่ะ) พี่เค้าจะดีมากเลย ก็จะคอยถือกระเป๋าหนังสือใบใหญ่ให้ทุกวัน(ทำไมเด็กไทยต้องกระเป๋าใหญ่ด้วยนะ) และพี่เค้าก็ไม่พูดมากด้วย เค้าอยู่บ้านเรานาน จนตอนหลังแต่งงานไป ข้อเสียของเค้าคือว่า เค้าเดินเร็วมาก ฉันซึ่งเป็นเด็กตัวกระเปี๊ยกเดียวเดินตามแก เหมือนกับพวกแข่งเดินเร็ว ไปถึงโรงเรียนงี้ลิ้นห้อยเลย จำได้ว่ามาบอกที่บ้าน เค้าก็เตือนพี่แกไป แต่ว่าแกก็ลืมๆ เดินเร็วอีกแหละ ทีนี้พอบอกพ่อ (พ่อก็เป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน) พ่อเลย แซวพี่เค้า เป็นภาษาท้องถิ่นว่า "เวลาเดินกับน้องเดินให้มันช้าๆ หน่อย เจ้าจะรีบร้อนไปตามควายหายที่ไหน" ฉันยังจำมุขพ่อได้แม่นเลย

เล่าเรื่องพ่อแทรกอีกหน่อย คือว่าพ่อน่ะจะเป็นคนที่มีมุขเยอะ เขียนจดหมายเนี่ยจะสนุกมาก ฉันน่ะปกติจะโทรไปหาพ่อกับแม่อาทิตย์ละครั้ง แต่ว่าฉันจะบังคับให้พ่อเขียนจดหมายมาถึงฉันอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง (โดยที่ฉันไม่ยอมเขียนตอบ เหตุผลก็คือ โทรคุยแล้วน่ะ) จดหมายของพ่ออ่านสนุกเหมือนอ่านขายหัวเราะเลย เวลารับจดหมายที ฉันจะหัวเราะดังลั่นอยู่คนเดียวเหมือนคนบ้า

เล่าไปเล่ามากลายเป็นชีวิตวัยเด็กและพ่อไปแล้ว เขียนหนังสือนี่มันยากเนอะ เรื่องมันไหลเข้ามาในหัวมากเกินกว่าที่นึกจะเขียนแต่แรกทุกทีเลย

ขากลับบ้านน่ะพี่ที่เดินเร็วน่ะไม่ต้องไปรับฉันแล้ว มีแต่น้าๆไปรับ น้าผู้ชายคนเล็กสองคนตอนนั้นเรียนมหาลัยกัน ตอนเย็นก็จะมีเวลาว่างมารับ บางทีพ่อก็มาบ้างถ้าไม่ติดไปคุมงานที่ต่างจังหวัด ฉันชอบให้น้าสองคนมารับมากๆเลย เพราะว่าเราจะแวะกินอะไรกันก่อนกลับบ้านประจำ ของที่พวกเราชอบก็มี ก๋วยจั๊บ กุยช่าย ศาลาฟอร์โมสต์ อร่อยๆทั้งนั้นเลย แล้วพอตกเย็น ฉันกับน้าทั้งสองคนก็จะ "ตั้งวง" เป็นศัพท์ของพวกเราที่หมายถึง น้าๆ จะเล่นกีต้าร์ให้ฉันร้องเพลง เนี่ยแหละ ฉันก็ฝึกฝนมาตั้งแต่เด็กเพราะร้องกับน้าๆ เพลงที่ชอบมากก็แน่นอน ต้องเป็นวงชาตรีเลย ในตอนนั้นฉันก็จะไม่ชอบวงอื่นนอกจากชาตรี จำได้ว่ามีอยู่วันหนึ่งพวกเราไปต่างจังหวัดกัน แล้วตอนเย็นก็ไปทานอาหารที่ร้านเป็นแบบสวนอาหารน่ะ ทีนี้เค้าก็มีวงดนตรีมาร้อง เค้าก็ร้องเพลงลูกทุ่ง มันคงจะไม่เพราะหรือว่าทำไมก็ไม่รู้แหละ ฉันก็ร้องไห้ลั่นเลย บอกว่า "ไม่เอาจะเอาชาตรีๆๆ" ร้ิองงอแงซ้ำๆอยู่อย่างนั้น เสียงก็ดัง(นักดนตรีคงเสียความมั่นใจไปเลยแหละ) พ่อก็โกรธ คงกะจะดุ แต่ว่าแม่กับน้าๆ หัวเราะเลยไม่มีใครโกรธฉัน แต่เค้าก็ต้องอธิบายให้ฉันฟังเหตุผลกันใหญ่

เล่าไปเล่ามาชักยาว มาเล่าต่อวันพรุ่งนี้ ชื่อไปโรงเรียนตอนสอง

previous - next