diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

22.07.2003 - 3:30 p.m.

ไปสัมมนาโครเอเชีย 1

เกริ่นนำ ฉันได้รับจดหมายรับให้ไปพรีเซนต์ ที่คอนเฟอเรนซ์ที่มี IEEE เป็นผู้สนับสนุนด้วย คอนเฟอเรนซ์นี้เค้าหมุนเวียนเปลี่ยนประเทศไปเรื่อยๆ ปีนี้จัดที่โครเอเชียพอดี ประเทศโครเอเชียนี้เป็นประเทศเกิดใหม่จากการแตกตัวของสังคมนิยม เลยทำให้ไม่ค่อยมีคนรู้จักเท่าไหร่ ขนาดญาติฉันยังนึกว่าโครเอเชียอยู่ทวีปอัฟฟริกาก็มี

ข้อดีก็คือประเทศโครเอเชียอยู่ติดกับอิตาลี ออสเตรียและฮังการี ตอนแรกฉันเลยกะว่าจะไปเที่ยวออสเตรียคนเดียวด้วยเลย แต่แล้ว เนื่องจากคอนเฟอเรนซ์นี่เค้ามีจัดกาลาดินเนอร์ด้วย เรื่องกาลาดินเนอร์นี่รู้ไปถึงหูมาสะเข้า เลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ มาสะเห็นเรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่น่ะ แกคิดว่าไปในฐานะผู้ติดตามฉันต้องได้กินฟรีแน่ แกเลยอาสาตามไปด้วย คราวนี้เรื่องเที่ยวเลยเป็นเรื่องใหญ่ เราจะไปเยอรมัน ออสเตรีย โครเอเชีย และฮังการี ฉันได้แต่ภาวนาว่าทริปนี้ขออย่าทะเลาะกันเลยเจ้าพระคู้ณ ไปเที่ยวกันทีไร ทะเลาะกันทุกทีเลย

เตรียมตัวเดินทาง เนื่องจากฉันต้องวุ่นวายกับการขอวีซ่ามาก เพราะว่าจะไปกันหลายที่เหลือเกิน และทุกประเทศก็ต้องขอวีซ่ามันทั้งนั้นเนื่องจากเราเป็นคนไทย ไหนยังจะวุ่นวายกับวิทยานิพนท์และการเตรียมพรีเซนต์ เลยยกเรื่องเที่ยวให้มาสะจัดการ ที่พักก็จองเอาทางอินเทอร์เนตไงไม่ต้องพักยูธโฮสเทล เพราะว่าพักโรงแรม3ดาวก็ราคาพอๆกัน เพราะยูธโฮสเทลเค้าคิดเป็นรายหัว หาโรงแรมใกล้ๆสถานีรถไฟ ก็ประหยัดค่ารถและสดวกสบาย (อันนี้นโยบายมาสะแก) ไปถึงก็เดินทางทางรถไฟ ตั๋วก็ไปซื้อเอาที่โน่นเลย

เราซื้อตั๋วการบินไทย เดินทางจากญี่ปุ่นไปแวะเยี่ยมเมืองไทยก่อน แล้วค่อยไปลงที่มิวนิก พอไปถึงที่นี่ด่านตรวจคนเข้าเมืองน่ารักมาก เค้าไม่ถามอะไรเลย สแตมป์พาสปอร์ตให้ฉันอย่างง่ายมาก ดีใจจัง และแล้วตอนนี้เราเข้ามาอยู่ที่มิวนิก เราต้องนั่งรถไฟไปยังสถานีที่ใกล้โรงแรมที่สุด แต่ที่นี่เยอรมันนะ แน่นอนว่าภาษาอะไรก็เป็นเยอรมันหมด แต่ไม่ต้องห่วงหรอก เค้ามีป้ายบอกทางไปขึ้นรถไฟ ง่ายดายมาก เราซื้อตั๋วเสร็จก็ขึ้นรถไฟทันที

บนรถไฟ แทนที่จะนั่งกันดีๆ มาสะเลือกไปนั่งติดมุมด้านหลังสุด ฉันบอกว่าจะนั่งตรงกลางก็ไม่ฟัง กลัวกระเป๋าจะเกะกะคนอื่น แต่รถมันว่างมากแล้วก็มันก็ได้เกะกะใครเล๊ย เฮ้อ คนญี่ปุ่นเค้าเป็นโรคขี้เกรงใจคนอื่นมาก นั่งไปได้แป๊บเดียว หนุ่มเยอรมันที่นั่งข้างๆกลิ่นเต่าออก ก็นี่มัีนหน้าร้อนน่ะ เราอยู่มุมอับกับกลิ่นเต่า ฉันหัวเสียมาก ทนนั่งไปได้ซักพักฉันก็ไม่ไหว ขอไปนั่งตรงกลางที่ว่างๆมีหน้าต่างลมพัดผ่าน ชวนมาสะแกก็บอกว่าลุกหนีไปอย่างนี้ดูเสียมารยาท ฉันก็เลยปล่อยแกมีมารยาทคนเดียว ซักพักมาสะก็เลยเดินตามฉันมามั่ง พอมานั่งข้างๆ แทนที่จะคุยกันน่ารักชมนกชมไม้จ๊ะจ๋าหวานแหวว แกเปิดประเด็นทันทีเลย “ฉันคิดว่ามันไม่แฟร์ที่ร้านในเมืองไทยคิดราคาคนญี่ปุ่นและคนไทยต่างกัน” เอาแล้วไง ฉันก็ใส่ความเห็นของฉันกลับไปบ้างว่า “มันก็จริงบ้าง แต่ว่าฉันคิดว่า เราควรให้โอกาศคนจนได้ลิ้มลอง รสชาติของความสุขที่หาซื้อได้ด้วยเงินอย่างที่คนรวยมีโอกาศบ้างเพื่อความเท่าเทียมกันในสังคม” มาสะใส่มาอีกเยอะ ความเห็นที่ไม่ตรงกัน ฉันก็ใส่กลับไปด้วย เริ่มถกเถียงกันมากขึ้นเปิดประเด็นการเมือง ฉันใส่ทั้งภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ เสียงดังขึ้นตามอารมณ์จนคนในรถมองหน่อยๆ เ็ฮ้อ วันแรกก็เริ่มเลย แต่นี่ไม่ใช่ทะเลาะ เป็นแค่การแสดงความคิดเห็น 40 นาที จนรถไปถึงสถานีที่เราลงแหละเป็นระคังหมดยก เฮ้อ ทำไมไม่ชวนชมนกชมไม้นะ

แล้วเราก็ไปถึงโรงแรม 3 ดาว โหย แค่ทางเข้าก็สุดๆแล้ว มันช่างไม่คุ้มกัยเงินเลยจริงๆ โปรดติดตามตอนต่อไป

previous - next