diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

01.05.2003 - 3:15 p.m.

สอนหนังสือ

อ่านไดอารีนิจวรรณสองวันติดกันเรื่องการสอนหนังสือ และสอนภาษาอังกฤษด้วย เลยอยากเขียนความรู้สึกเกี่ยวกับการสอนภาษาอังกฤษตามที่มีประสพการณ์มาบ้าง

ตอนแรกที่ต้องสอน ฉันไม่ได้คิดอะไรเลย วันแรกฉันนึกว่าไปสัมภาษณ์ ก็เลยไปตัวเปล่า แต่ปรากฎว่าที่บ้านเด็กเค้าให้สอนเลย ก็เลยสอนให้เด็กร้องเพลงภาษาอังกฤษ แล้วทำท่าทำทาง ก็เข้ากันได้ดีมาก เด็กที่ฉันสอนเป็นเด็กผู้ชาย ตอนนั้นอยู่ ป 1

ต่อมาก็เริ่มคิดว่า แล้วฉันจะสอนอะไรเด็กดีล่ะ ก็เลยไปหาซื้อหนังสือแบบเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กมา ก็สอนแบบเน้นการสนทนา แต่เนื่องจากเด็กเค้าเป็นเด็กผู้ชาย(ฉันมีความเชื่อส่วนตัวว่าเด็กผู้ชายไม่ค่อยเอาดีด้านภาษาเมื่อเทียบกับเด็กผู้หญิง) ฉันสอนไปสอนมา บางทีเด็กเค้าจะเซ็งและเหนื่อยมาก (สอนเค้าหลังเลิกเรียน ตอน 5 โมงถึง 1ทุ่ม สอนภาษาอังกฤษ 1 ชม ให้เล่นคอม 1 ชม) และที่เค้าไม่เอาเลย คือเค้าไม่ยอมเขียนหนังสือเลย ฉันก็ไม่อยากบังคับ เพราะว่าก็คิดอย่างที่นิจว่า คือไม่อยากให้เด็กมีความเกลียดฉันและเกลียดภาษาอังกฤษฝังใจ คือเค้าไม่อยากทำก็ไม่ต้องทำวะ เอาแต่ให้เค้าพูดได้ ฟังออกก็ละกัน ไว้โตขึ้น เค้าก็อ่านออกเองแหละ ฉันไม่ได้สอนกวดวิชาสอบเข้ามหาลัยนี่นา ฉันคิดยังงี้

แต่บางทีก็ท้อใจมากเหมือนกันที่น้องเค้าดูเหนื่อยหน่าย และก็ไม่ตั้งใจอย่างที่ฉันคาดหวัง บางทีเวลาเห็นเค้าเหนื่อยจากการเรียนแล้วต้องมาเรียนกับฉันต่ออีกอาทิตย์ละ2วัน (แม่เค้าให้เค้าเรียนพิเศษทุกวันเลย วันเสาร์ก็เรียนกอล์ฟด้วย) ฉันก็ยังบอกแม่เค้าไปเลยว่า เรียนกับฉันน้อยลงก็ได้ค่ะ สงสารน้องเค้า (ลืมความงกเลยว่าได้เงินค่าสอนชั่วโมงละ พันบาท)

ที่ท้อมากก็คือ ทำไมสอนเค้ามาตั้งนานแล้ว ไม่สามารถสอนให้เค้าอ่านออกเขียนได้วะ คิดผิดรึเปล่าที่ไม่บังคับเค้าให้ตั้งใจเรียนมากกว่านี้ ให้การบ้านเค้าเยอะๆ แต่เดี๋ยวเค้าก็เกลียดภาษาอีก เฮ้อ

บางทีบ่นให้มาสะฟังเค้าก็เลยปลอบใจว่า คิดซะว่าสอนเค้าให้คุ้นเคยกับการได้ฟังภาษาอังกฤษก็พอแล้วล่ะ เค้าได้ฟัง ได้พูดบ้าง มันก็ซึมซับไปเอง ดีกว่าคนที่ไม่ได้เรียนเลย อืม ที่มาสะพูดก็ถูก คือฉันจะพูดภาษาอังกฤษกับน้องเค้าตลอด เค้าก็ฟังรู้เรื่องดี อย่างเวลาแม่เค้าพาเค้าไปอเมริกาหรือต่างประเทศ แม่เค้าก็จะมาคุยให้ฟังว่าลูกเค้าฟังออก ฉันก็ดีใจปลื้มไปด้วย คือเด็กเค้าเรียนกับฉันแค่ อาทิตย์ละแป๊บๆ จะให้พูดน้ำไหลไฟดับก็คงเป็นไปได้ยาก คิดอย่างนี้ก็สบายใจขึ้น ว่าอย่างน้อยเค้าก็ฟังออกละนะ

ตอนนี้ฉันเลยแทรกเกมส์กระดาน ให้เล่นเยอะหน่อย เรียนรู้คำศัพท์และอ่านไปด้วย น้องเค้าก็สนุก ฉันก็รู้สึกดี แต่ว่าพื้นฐานอย่างนึงที่ฉันมี คือ ฉันชอบสอนหนังสือ และฉันรักเด็ก

ตอนนี้ฉันสอนอีกรายนึง เป็นพนักงานธนาคาร รุ่นน้องมหาลัยฉันที่นี่ เป้าหมายของเค้าคือ อยากพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เมื่อเป้าหมายแน่นอนอย่างนี้ เรียนจบมหาลัยแล้วด้วย(มีพื้นฐานที่ใช้ได้) และก็เป็นผู้หญิง(ตั้งใจเรียนภาษา) ก็สบายสำหรับฉัน

ตอนแรกฉันก็สอนสนทนาทั่วไปที่คิดออก และก็ให้เค้าอ่านคอลัมน์ นิตยสารผู้หญิงด้วยกันกับฉัน แต่ต่อมาฉันไปเจอหนังสือแบบเรียนเล่มนึง เป็นแบบฝึกหัดไว้สอนการสนทนาสำหรับคนสองคน เป็นหนังสือที่ดีมาก แต่ละหัวข้อจะเป็นการสมมติสถานะการณ์ เช่น โทรไปจองโรงแรม ก็ผลัดกันเป็นพนักงานโรงแรม และคนโทรไปจอง สอนคนนี้ ฉันสนุกมาก ไม่ต้องเตรียมการสอนเลย ถึงเวลาก็เล่นไปตามสถานการณ์ นักเรียนก็สนุก ฉันก็สนุก สบายดี (ที่สอนเด็กประถมก็ไม่ค่อยเตรียมตัวเหมือนกัน บางทีเตรียมบ้าง แต่น้องเค้าเบื่อ ก็ไม่เป็นไปตามที่เตรียม ก็แทรกมุขเล่นกับเด็กเอาเอง อย่างเป่ายิ้งฉุบ แล้วบอกคำศัพท์ ใครชนะได้ตุ๊กตากาโม่ และอื่นๆอีกมากมาย)

previous - next