diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

02.08.2002 - 7:06 p.m.

ปัญหารัก

ฉันรู้ว่าคนญี่ปุ่นบ้าตัวด้วงมาตั้งแต่ก่อนที่จะมาเรียนต่อที่นี่ เพราะว่า M เล่าให้ฟัง เค้าบอกว่าตัวด้วงที่ตัวใหญ่ๆมาก มีราคาเป็นหมื่นเป็นแสนบาททีเดียว ตอนนั้นฉันก็พลอยตื่นเต้นไปด้วย เอาไปเล่าให้แจงฟัง ซึ่งมันก็พลอยตื่นเต้นตาม เราถึงกับคิดกันว่า น่าจะทำธุรกิจหาด้วงตัวใหญ่ๆแล้วลักลอบนำเข้าญี่ปุ่น(โดยมีฉันเป็นผู้ขนsmuggler) เพราะเราไม่แน่ใจว่านำเข้าด้วงเนี่ย มันผิดกฎหมายรึเปล่า คิดว่าขนไม่กี่ตัวคงรวยหลายล้าน :) แต่ว่าฉันกลัวโดนจำคุกตลอดชีวิตเพราะแอบนำเข้าด้วง เลยไม่ได้ทำ

พอมาอยู่ญี่ปุ่นแล้ว ก็รู้ว่าที่เป็นด้วงมีราคาน่ะ จะต้องเป็นสายพันธุ์แท้ของญี่ปุ่นเท่านั้น ของไทย หรือว่าพันธุ์ทางน่ะ ตัวละไม่เท่าไหร่ ที่แต่ก่อนไม่รู้แล้วพึ่งมารู้ด้วยอีกอย่างก็คือว่า ตา M น่ะบ้าด้วง เค้าจะเลี้ยงด้วงไว้ในห้อง แล้วก็มีเพื่อนสนิทที่บ้าด้วงด้วยเหมือนกัน คอยพากันไปจับด้วงในป่าเวลาวันหยุด ฉันไม่ชอบไปป่าจับด้วง ก็เลยไม่เคยตามไปด้วยเลย มีบางทีฉันอยากให้ตา M อยู่เที่ยวเล่นด้วย พี่แกก็หนีไปจับด้วง ฉันเบื่อมากและค่อนข้างแอนตี้ด้วง

มีครั้งเดียวแหละที่เค้านัดกับเพื่อนไปจับด้วงแล้วฉันเซ็งๆ ก็เลยลองตามไปด้วย วิธีการก็คือต้องไปเช่ารถก่อน เพราะว่า M ไม่มีรถ ส่วนรถเพื่อนเค้าก็เป็นวอลโว่แวนใหม่เอี่ยม เห็นบอกว่าดูไม่เข้ากับชาวบ้าน เช่ารถโตโยต้าเก๋ง แล้วก็ขับไปนอกตัวเมือง แล้วก็ไปในป่าที่คาดว่าจะมีด้วง ทางเข้าป่า เป็นเขตของชาวสวนแถวนั้น เลยต้องซื้อซาลาเปาที่มีชื่ออยู่บนทางที่เราผ่าน(ซาลาเปาใส้ถั่วแดงภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า มันจู) ไปฝากคนละห่อใหญ่ พอเราไปถึงก็เข้าไปทักทายชาวบ้านแถวนั้น(เรียกว่าชาวบ้านเพราะฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นเหมือนเกษตรอำเภอไปเยี่ยมชาวบ้านยังไงไม่รู้) ทักทายบ้านนึงก็เอาซาลาเปาไปฝากห่อนึง แล้วเค้าก็จะเอาน้ำกับขนมมาต้อนรับ น่ารักมากเลย เนี่ยแหละเลยทำให้รู้สึกเหมือนเยี่ยมเยียนไง เยี่ยมเสร็จ ก็อิ่มพอดี เอ๊ย ไม่ใช่ก็ได้ฤกษ์เข้าป่า (บอกอนุญาติชาวบ้านเสร็จไง)


ทางเข้า


เข้าไปไม่นาน แขนเพื่อน ก็มีรอยยุงดังนี้

เข้าไปวางกับดักล่อด้วงเสร็จ เราก็ขับรถไปยังอีกป่านึง ระหว่างทางก็มีวิวสวยๆ (สวยมาก)

แล้วก็ไปทักทายชาวบ้านอีกที่นึงอีก คราวนี้ลุงชวนดื่มเบีร์ยด้วย แต่ว่าไม่มีใครตกลง แล้วเราก็กินข้าวเย็นกันแถวๆนั้น พอเย็นย่ำก็กลับไปที่หมู่บ้านแรก ไปถึงก็ไปแวะบ้านผู้ใหญ่บ้าน ภรรยาแกก็เตรียมเต้าฮวยเย็นฟรุ๊ตสลัดมาให้อีก พอไปอีกบ้าน ยายกับตาก็เตรียมขนมไว้ให้ด้วย คุณตาตัดพ้อว่าอุตส่าห์รอดื่ม(ไม่มีใครยอมดื่มกับแก) สรุปว่าวันนั้นก็ไม่ได้ด้วงกลับมาหรอก แต่ว่าฉันก็รู้สึกดีขึ้นกับทริปจับด้วง รวมไปถึงด้วงด้วย

M เลี้ยงด้วงอยู่ในกล่องพลาสติกที่ทำขายเอาไว้ให้ด้วงอยู่ ส่วนมาก็เป็นด้วงเดี่ยว อยู่ในกล่องไม่ใหญ่มาก มีขอนไม้ใส่ไว้ในกล่องด้วย ที่พิเศษอยู่ ก็มีกล่องนึงใหญ่เป็นกล่องพลาสติกขนาดเกือบเท่าตู้ปลาเล็กๆได้ จัดให้ด้วงที่เค้าเลี้ยงเองจากตัวดักแด้ตัวผู้กับตัวเมียอยู่ด้วยกัน ฉันไม่เคยมองด้วงเหล่านี้เลย จนอยู่มาเร็วๆนี้ ฉันนึกยังไงไม่รู้ อยากรู้ว่าด้วงสามีภรรยาจะเป็นยังไงมั่งหนอ (เห็น M ว่ามันอยู่กันด้วยดีมาเป็นปีแล้ว) ก็เลยลองมองดู วันนั้น ดูท่าทาง ตัวผู้จะมีความสุขมากเลย อยากจะอยู่ใกล้ตัวเมีย แต่ว่าตัวเมียน่ะดูท่าทางรำคาญๆ ไปมาฉันก็เห็นว่า ตัวผู้ทำเหมือนเล่นไล่จับน่ะ แต่ว่าดูหยอกแรงจัง ฉันเลยเรียก M มาดู เค้าก็เลยจับมันแยก (คู่รักที่อยู่กันมาเป็นปีต้องโดนแยก ;_;) พอแยกกัน ตัวทั้งสองตัวก็ดูสงบเสงี่ยมมาก แยกกันได้ไม่กี่วัน ฉันก็คิดว่า มันอาจจะเหงา M ก็เห็นด้วยเลยจับมันมาอยู่ด้วยกันใหม่ พอจับมันมาอยู่ด้วยกัน ตัวผู้ดูจะมีความสุขมากๆ ในขณะที่ตัวเมีย บางทีก็ยอมเคล้าเคลียอยู่กับตัวผู้ บางทีก็ดูเหมือนกับพยายามจะปีนกล่องหนี ฉันก็ไม่รู้วิถีชีวิตของด้วงหรอก แต่เดาเอาว่าตัวเมียมันอาจไม่มีความสุข ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันมีความสุขไหม ที่อยู่ด้วยกัน อาจสุขก็ได้ หรือว่ามันอาจอยากปีนกล่องเล่น หรือปีนกล่องหนีตัวผู้ อันนี้ก็ไม่รู้แน่

M บอกว่าตัวเมียอาจรำคาญตัวผู้ เพราะว่ามันท้องก็ได้ เลยอยากสันโดษ ฉันก็ไม่แน่ใจว่าจะเอาไงดี? มันอยากอยู่ด้วยกัน? หรือว่ามันอยากหย่า น๊า? ชีวิตรักที่ไม่ราบรื่น หรือว่า แค่มัััันอยากมีเวลาส่วนตัวซักช่วงนึง

previous - next