diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

08.07.2002 - 1:26 p.m.

มาเล่าต่อเรื่องโฮมสเตย์

บ้านโฮมสเตย์ที่ฉันไปอยู่มีเนื้อที่ค่อนข้างกว้างมาก บ้านส่วนที่ฉันอยู่ มีขนาดเท่ากับบ้านจัดสรรสองชั้นในเมืองไทย ห้องนอนมีห้องน้ำในตัวด้วย เป็นบ้านที่ทันสมัยทีเดียว พอฉันอาบน้ำเสร็จ คุณพ่อก็บอกให้ไปกินข้าวเย็นกัน แต่ว่าพาเดินออกทางหลังบ้าน พอเดินออกไปถึงได้เห็นว่า ที่หลังบ้านที่ทันสมัยนั้น มีเรือนอยู่อีกเรือนนึง ทำด้วยไม้ทั้งหมด เหมือนเรือนโบราณของญี่ปุ่น เรือนนั้นใหญ่โตประตูหน้าต่างเปิดโล่งหมด มีผู้คนนั่งอยู่เต็มไปหมด กะๆว่าซักสามสิบคนได้ พอฉันเข้าไปถึง ก็เห็นป้ายเขียนเป็นภาษาไทยตัวโย้เย้ ว่า "ยินดีต้อนรับ" ที่แท้เพื่อนคุณพ่อ อุตส่าห์พยายามเขียนภาษาไทยให้ฉัน คุณพ่ออุตส่าห์เชื้อเชิญแขกเหรื่อมามากมายเพื่องานเลี้ยงต้อนรับฉันคนเดียว ซึ้งใจจริงๆ

อาหารที่งานเลี้ยง เยอะมากๆ คุณแม่เป็นคนจัดเตรียมทั้งหมด อาหารอร่อย สมกับที่ว่า คนร่างท้วมทำกับข้าวอร่อย มีทั้งอาหารญี่ปุ่น และ อาหารทะเลปิ้ง อาหารทะเลที่ญี่ปุ่นแพงมาก แต่ว่าบ้านนี้มีเลี้ยงไม่อั้นเลย มีทั้งหอยต่าึงๆ ทั้งปูกุ้ง ฉันเพิ่งเคยกินหอยหวาน อร่อยมากๆก็ที่นี่แหละ พอทานอาหารเสร็จ คุณพ่อและเพื่อนๆก็มีจัดแสดง รำกลอง(ไทโกะ)แบบญี่ปุ่นให้ดูด้วย การรำกลองแบบญี่ปุ่น ต้องใช้พละกำลังมากนี่เป็นงานอดิเรกอย่างนึงของคุณพ่อ

โต๊ะที่ฉันนั่ง มีคนหนุ่มๆอยู่สองคน เป็นเพื่อนกัน พ่อหนุ่มคนนึง ชื่อว่าโยสุเกะ เป็นเด็กรุ่นน้อง อยู่มหาลัยเดียวกับฉัน เค้าไปเรียนภาษาที่ออสเตรเลียมาหนึ่งปี พึ่งกลับมา เค้าเลยพูดภาษาอังกฤษได้คล่อง เลยคอยชวนฉันพูดคุย และเป็นล่ามให้ฉันซึ่งตอนนั้นภาษาญี่ปุ่นไม่รู้เรื่องเท่าไหร่เลย โยสุเกะ นิสัยน่ารักมาก เป็นคนญี่ปุ่นที่หน้าตาดี คล้ายๆ จอน เลนนอน ตอนใส่แว่นสีชา ตอนหลัง ฉันก็ติดต่อกับ โยสุเกะบ้าง เค้าจะโทรมาชวน แต่พอฉันเปลี่ยนโทรศัพท์ ก็เลยไม่ได้ติดต่อกันอีก

อีกคนนึงที่ฉันรู้จักที่งานเลี้ยงนี้ ก็คือ คุณเคียวโกะ ผู้หญิงที่ดูเรียบร้อยอายุประมาณเกือบสี่สิบ วันนั้นคุณเคียวโกะแต่งตัวด้วยชุดกิโมโน เธอมากับลูกสาวแสนซน คุณเคียวโกะเข้ามาคุยกับฉันด้วยภาษาอังกฤษ และบอกว่าเธอเคยมีเพื่อนเป็นนักเรียนไทยอยู่หลายคน เธอขอเบอร์โทรศัพท์ฉันและก็ให้นามบัตรเธอไว้กับฉันด้วย เธอบอกว่าคงได้ติดต่อกันอีก

ก่อนงานเลิก แขกที่มาในงานพากันเอาของที่ระลึกมาให้ฉันกันใหญ่ ฉันรู้สึกประทับใจมากที่ทุกคนให้ความเป็นกันเองอย่างดีกับฉัน

แล้วฉันก็กลับมาที่บ้าน ตอนแรก ก็นั่งคุยกับลูกสาว ที่ชื่อว่า ไม แล้วฉันก็ง่วงมาก เลยขอตัวไปนอน พอไปถึงห้อง ฉันก็เริ่มตกใจอีกครั้ง ที่ห้องไม่มีอะไรเลย คือว่าบ้านญี่ปุ่น จะนอนกันบนที่นอนที่เรียกว่า ฟุตอง ตามธรรมดา เจ้าของบ้านจะจัดเตรียมไว้ให้แขกแล้ว แต่ว่าบ้านนี้ไม่มีอะไรเลย ฉันก็คิดว่า เค้าอาจจะเก็บเอาไว้ในตู้ก็ได้ ตู้ที่เก็บฟูตองภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า (โอะชีเระ) ฉันก็มองหาตู้รอบห้อง หาไม่เจอเลยซักตู้ ฉันก็เริ่มเหวอ เริ่มนึกถึงตอนที่คุณพ่อพามาดูห้องนอนแล้วถามว่าอยู่ได้ไหม ห้องพื้นเสื่อนะ "โอย ที่แท้เค้าหมายความว่า ให้ฉันนอนบนเสื่อหรือนี่" ฉันคิด ไอ้นอนบนเสื่อแข็งๆยังไม่เท่าไหร่ ตอนนี้ฤดูใบไม้ร่วง ใกล้หน้าหนาวแล้ว อากาศตอนเช้าจะเย็นยะเยือกแค่ไหน เค้าอาจไม่ได้แกล้ง แต่ว่าเค้าไม่มี ที่นอนกับผ้าห่มพอก็ได้ ฉันคิดไปคิดมา ตะกี๊ น้ำก็ร้อนจี๋ทีแล้ว นี่ก็ไม่มีที่นอนอีก ฉันกลัวมากเลยร้องไห้ออกมา

ที่จริงว่าจะเขียนให้จบเรื่องโฮมสเตย์ในวันเดียว แต่ว่าจบอย่างนี้มันเท่ห์ดี(มีคนบอก) เลยหยุดไว้ก่อนดีกว่า ให้มาติดตามกันตอนต่อไปวันพรุ่งนี้

previous - next