diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

08.08.2002 - 12:08 p.m.

วีรกรรมขยะ

ที่เคยเขียนไว้วันก่อนว่าอยู่ที่ญี่ปุ่นต้องแยกขยะเป็นประเภทต่่างๆ คร่าวๆ คือ 1 ขยะเผาได้ 2 ขยะเผาไม่ได้ ก็พวกพลาสติกนี่แหละ 3 พลาสติกรีไซเคิลได้อย่างโฟม 4 ขวดพลาสติก 5 กระป๋องน้ำอัดลม และแยกอื่นๆอีกมากมาย

ที่อพาตเมนท์ที่ฉันอยู่ มีที่ให้ทิ้งขยะที่หน้าตึก ตรง A แต่ก่อนแต่ไรก็ทิ้งกันได้นะ อยู่มาวันนึง ซักเดือนก่อนได้ มีคนมาทิ้งขยะผิด คือไม่แยกขยะ แล้วก็ทิ้งผิดวัน คนเก็บขยะเค้าก็ไม่เก็บให้สิ แล้วเค้าก็เอาสติกเกอร์มาปิดขยะด้วยว่าผิด ขยะที่นี่ต้องทิ้งรวมอยู่ในถุงพลาสติกใส เมื่อถูกทิ้งรวมอยู่อย่างนั้นก็เป็นที่รกหูรกตามาก หนำซ้ำยังมีคนญี่ปุ่นที่เห็นคนทำผิด แล้วนึกว่าทำตามได้ ก็เอากันใหญ่ เอาขยะแยกมั่งไม่แยกมั่งมาทิ้งสุมไว้ที่หน้าอพาตเมนท์(จุด A)

ฉันเห็นแล้วทนไม่ได้เลย คนต่างชาติอย่างฉันยังทำตามระเบียบได้ ทำไมคนญี่ปุ่นในตึกนี้มันทำไม่ได้ ฉันก็คิดแผนการจะสั่งสอนพวกนี้ พอดีมีลูกยุด้วย ฉันเลยจัดการขนถุงขยะที่วางสุมอยู่หน้าอพาตเมนท์ มาไว้ที่จุด B ซึ่งเป็นหน้าตู้จดหมายของคนชั้นสองขึ้นไป เมล์บอกซ์ชั้นล่างจะอยู่หน้าห้องทางด้านที่มีลูกศร -> ห้องข้างล่างมีแต่ห้องฉันกับป้าซึ่งฉันแน่ใจว่าแกไม่ได้เป็นตัวการทิ้งผิดแน่

ฉันกะว่าพวกที่ทิ้งผิดมันจะต้องทนดมขยะทุกครั้งที่มันมาเช็คจดหมาย สะใจ ถึงฉันจะเหม็นตอนเดินผ่านเวลาเข้าห้อง พวกมันต้องเหม็นกว่าแน่ แล้วพวกชั้นบนที่ไม่ได้ทำก็คงเริ่มบ่น (ฉันคิด)

แต่ขยะก็ยังอยู่อย่างนั้นไปอีกสองสามวันที่จุด B โดยที่ไม่มีมาเพิ่มที่หน้าตึก A แล้ว ต่อมาเป็นวันที่แม่บ้านมาทำความสะอาดรอบๆ แกก็จัดการยังไงไม่รู้กับขยะกองใหญ่ ให้เหลืออยู่แค่สองถุง แล้วแกก็เขียนเป็นกระดาษด่าร่ายยาวไว้ที่จุด B แต่ว่าที่แกทำผิดไปหน่อยคือ แม่บ้านดันเหลือถุงขยะสองถุงไว้ที่ D ฉันกลับบ้านมาเห็นเข้าก่อนก็กลัวว่าไอ้พวกไร้สามัญสำนึกมันจะนึกว่าจุด D เป็นจุดทิ้งขยะมั่วๆได้ใหม่ล่ะแย่เลย ฉันเลยจัดการย้ายขยะสองถุงนั้นขึ้นไปวางไว้บนบันไดพัก C ซะเลย ให้พวกนั้นต้องเดินข้ามขยะสะใจกว่าเดิม

อย่างไรก็ตามขยะที่ C ตอนแรกมีเพิ่มขึ้นด้วยนะ(ฉันแอบๆไปดู) แต่ว่ามันก็ค่อยๆหายไป จนในที่สุดทุกจุดก็สะอาดเอี่ยม คนบางคนก็ต้องได้รับการอบรมสั่งสอนจริงๆ ถึงจะรู้ว่าอะไรควรไม่ควร

จนกระทั่งวันศุกร์ที่แล้ว ฉันกลับบ้านมา มีคนเอากล่องกระดาษ และขยะกระดาษมาทิ้งตอนกลางคืน ก็ในเมื่อวันเสาร์ อาทิตย์ ไม่มีใครมาเก็บขยะมันก็อยู่อย่าึงนั้นต่อไปสิ แล้วคนทิ้งมันก็โง่พอที่จะทิ้งกล่องกระดาษพัสดุที่มีชื่อตัวและชื่อห้องอยู่ด้วย ฉันก็เลยไปขอให้ M ช่วยเขียนด่าให้หน่อย ว่า "กรุณาทิ้งขยะให้ถูกต้อง ถูกที่ถูกเวลาด้วย เข้าใจมั๊ย" M บอกว่า แหม แค่นี้กล่องกระดาษเองนะเธอ ฉันก็เลยบอกว่า เดี๋ยวมันก็ไม่แค่กระดาษหรอก พวกคนอื่นเห็น ก็เอาอย่างอื่นมาทิ้งตามอีก ไม่ได้หรอก ต้องสั่งสอนให้รู้จักกฎ

แล้วฉันก็แอบเอากล่องกระดาษไปไว้หน้าห้องเจ้าของขยะ รวมทั้งสอดกระดาษด่าไว้ที่ประตูมันด้วย :P (ตื่นเต้นเหมือนกัน กลัวโดนจับได้) แต่ว่าถือว่าประสบความสำเร็จสูงมาก มันก็เก็บขยะเอาไว้จนวันจันทร์แหละ ถึงเอามาทิ้ง แล้วทุกจุด A B C D ก็เคลียร์อีกครั้ง สบายใจ

ฉันคิดว่าเรื่องที่ดีงาม กฎอย่างทิ้งขยะเราก็ควรทำตามใหุ้ถูกต้อง เพราะว่าขยะเผาไม่ได้ เอารวมเผาไป มันก็เกิดมลภาวะอยู่ดี แล้วก็ไม่ได้ช่วยอะไรด้วย แต่ว่าเอาไปฝัง หรือ รีไซเคิล มันก็ยังได้ประโยชน์ อีกอย่างทิ้งขยะไม่ถูกวัน มันก็ส่งกลิ่นและภาพรบกวนส่วนรวมด้วย หรือกฎอย่างเข้าแถวให้ถูกต้องขับรถให้ถูกเลนส์ ฉันเป็นคนนึงล่ะ ที่จะด่าพวกแซงคิว (จนพ่อดุว่าไปด่าเค้าเดี๋ยวมันโกรธขึ้นมาเธอจะเอาอะไรไปสู้) หรือขับรถ ถ้าเป็นที่ห้ามแซงเข้าแล้วมันยังจะมาแซง ฉันเป็นคนที่ขับรถกัดคันหน้าแทบจะติดกันเป็นคันเดียว ห้ามพวกแซงเข้ามาได้ แล้วฉันยังบีบแตรด่าด้วย

แต่ฉันก็ไม่เห็นด้วยว่าเราต้องทำตามทุกกฎเสมอไป อย่างที่เคย discuss กับปิ ฉันว่ากฎบางอย่าง เป็นเรื่องที่คนๆนึงคิดมา ให้คนส่วนใหญ่ทำ ถ้ามันดูไม่น่าจะมีเหตุผล ฉันก็ว่าเราไม่เห็นต้องทำเลย ที่จริงควรต่อต้านด้วยซ้ำ คนคิดกฎจะได้ทบทวน อย่างกฎหมาย ก็ยังต้องมีแก้เลย เพราะว่ามันอาจไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เปลี่ยนไป อย่างที่ฉันเคยเจอมาก็ การที่จะเข้าเมืองไทย ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองคุณต้องกรอกเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น แล้วตาสีตาสาที่แกได้ไปเมืองนอก จะไม่ให้แกกลับเข้าเมืองไทยเหรอ ถ้าแกเขียนภาษาอังกฤษไม่เป็น กฎบ้าๆอย่างนี้ ฉันไม่เห็นด้วย เพราะอย่างประเทศญี่ปุ่น เค้าก็เลือกกรอกเป็นภาษาญี่ปุ่นได้

มีอีกอันที่ได้ยินมา คือว่าสมัยพวกฉัน โรงเรียนรัฐบาล เค้าให้เริ่มเรียนภาษาอังกฤษได้ตั้งแต่ปอห้า แต่ว่าอย่างรุ่นพ่อแม่เนี่ย เค้าเรียนกันตั้งแต่ปอหนึ่งก็ได้ อันนี้มันมาจากว่า ผู้ออกกฎให้เริ่มเรียนปอห้าเนี่ยลูกมันสอบภาษาอังกฤษตกผู้ใหญ่ในกระทรวง หรือรัฐมนตรีอะไรนี่แหละ จำชื่ำอไม่ได้แล้ว(แหล่งข่าวมาจากแม่ที่ทำงานหนังสือพิมพ์) มันเลยเปลี่ยนกฎใหม่ยุคพวกฉัน เป็นยังไงล่ะ คนคิดกฎอย่างนี้มีจริง ที่สยามเมืองเรานี่แหละ ฉันถึงไม่คิดว่า ฉันต้องทำตามทุกกฎหรอก ถ้ามันไม่เมกเซนซ์

previous - next