diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

14.11.2002 - 3:26 p.m.

อากาศหนาวก็เข้ามาแล้ว สาวๆที่นี่ก็พากันถักไหมพรม สาวๆญี่ปุ่นถักผ้าพันคอให้หนุ่มเหมือนในการ์ตูนไม่มีผิด นึกไปถึงหน้าหนาวปีแรกที่นี่ของฉัน ตอนนั้นฉันก็อยากลองถักดูบ้าง เพราะว่าที่นี่มีหนังสือสอนวิธีถักอย่างง่ายๆน่ารักๆเต็มไปหมด พอไปที่ร้านไหมพรม ยิ่งมีไหมพรมแบบแปลกๆน่ารักให้เลือกเยอะแยะ ฉันลองถักผ้าพันคออันแรกให้มาสะคือไม่ได้จะให้เค้าประทับใจอะไรหรอกอยากถักเล่นเฉยๆ เนื่องจากไม่เคยถักมาก่อนมันก็เบี้ยวๆบูดๆมากเลย แต่ว่าก็ให้เค้าใช้ไป ยังฉันยังไม่เข็ด ยังถักหมวกต่อ ไอ้หมวกนี่ดูเหมือนง่าย แต่ว่าคนถักไม่ค่อยเป็นมันก็ไม่สม่ำเสมอ เลยกลายเป็นหมวกเบี้ยวน่าเกลียดกว่าผ้าพันคออีก แต่ว่าก็ให้พี่แกไปนะ แต่ว่าพอเห็นสภาพตอนเค้าใส่แล้ว ฉันก็ขอร้องให้เค้าอย่าใส่ดีกว่า

ปีต่อมาฉันก็พบว่าที่ร้านขายไหมพรมที่นี่เค้ามีครูสอนถักด้วย ไม่ต้องจ่ายตังค์นะ แค่ซื้อไหมพรมที่ร้านเค้า เค้าก็สอนให้ฟรี ฉันก็เลยไปเรียนทำเสื้อกั๊กได้มาตัวนึง แต่ว่าทุลักทุเลเหนื่อยมากเลย ฉันต้องไปเรียนบ่อยมากเพราะว่ามันยาก นี่ไงฉันถึงได้รู้ว่ามีสาวๆมาเรียนถักเยอะมาก เพื่อจะถักผ้าพันคอ เสื้อกั๊ก เสื้อกันหนาวให้หนุ่ม

ปีนี้ฉันก็เลยพาเพื่อนๆไปร้านด้วยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยฉันบังคับให้เพื่อนสาวถักผ้าพันคอให้แฟน ส่วนอีกสาวที่ไปด้วยก็เลยอยากถักผ้าพันคอเล่นใส่เองมั่ง แล้วพวกหล่อนก็มายุให้ฉันถักหมวก โดยบอกว่าหมวกแบบในร้านฉันใส่แล้วน่ารักมาก ฉันมันก็บ้ายุอยู่แล้ว เหรอๆน่ารักเหรอ เอาก็เอา สาว(แก่ๆ)อย่างพวกเราก็เลยพากันถักอย่างทั่วหน้า หมวกถักง่ายมาก ไม่ถึงวันก็เสร็จแล้ว วันจันทร์ฉันเลยใส่มาให้เพื่อนดูที่โรงเรียน สาวๆก็พากันชื่นชมกันใหญ่ แต่ว่า... มีรุ่นน้องผู้ชายคนนึง (เนื่องจากจะนินทามัน ขอเรียกมันว่าน้อง ห. ละกัน) มันก็เข้ามาเห็นหมวกใหม่ฉันพอดี มันก็ทำหน้ารับไม่ได้สุดเดช แล้วก็บอกว่าอย่าให้บอกเลยว่าเหมือนอะไร ฉันก็เสียเซ้วไปเล็กๆ แต่ว่าไม่ได้โกรธมันหรอก นึกๆไปว่า ถ้าเป็นเพื่อนเรียนตรี ปากมันจะยิ่งกว่านี้อีกคงจะประมาณว่า อี... มึงกล้าใส่อะไรอย่างนี้มาได้ไงเนี่ย ฉันก็คิดไปคิดมาไม่รู้หมวกมันน่าเกลียดมากรึเปล่าเอาไงดีนะ แล้วก็ใส่กลับบ้านต่อ

ต่อมาเย็นนั้นฉันก็คิดว่าถามมาสะดีกว่า ว่าแล้วฉันก็อวดมาสะพอยื่นให้แกดูเท่านั้นแหละ แกทำท่าดีใจมากรีบบอก"โหยหมวกน่ารักจังเลย เธอทำให้ฉันเหรอ" ฉัน"ไม่ใช่ๆ นี่มันของฉัน เออ แต่ว่ามันก็น่าจะเข้ากับเธอเหมือนกันลองใส่ดูดิ" ก่อนอื่น ขอเล่าว่าหมวกฉันนี่มันเป็นสีน้ำตาลอ่อน ปนเข้ม แล้วมีขนเฟอร์ฟูๆที่ขอบหมวกนะ ทีนี้มาสะก็จะหน้าเรียว มีผมม้า พอใส่หมวกก็จะดูหวานแหววมาก สองคนก็เลยชื่นชมหมวกกันใหญ่ ฉันก็เลยเสนอว่า"เดี๋ยวทำให้เธออีกอันละกัน ของเธอไม่ต้องมีเฟอร์นะ" คือฉันคิดในใจว่าเฟอร์มันหวานไปปะ แต่ว่ามาสะรีบบอกฉันว่า "ไม่มีเฟอร์ก็ไม่น่ารักดิ จะเอาเฟอร์ด้วย" อืม เอาก็เอา ฉันนะหายเสียเซ้วไปเลย คบกันคนอย่างมาสะนี่สบายใจดี

หลังจากนั้นฉันก็มาคะยั้นคะยอน้อง ห. ใหม่ ถามมันว่าหมวกฉันน่าเกลียดมากเลยเหรอ อุตส่าห์ถักเอง มันก็แบบว่าตกใจ โหยนั่นถักเองเหรอทำได้ขนาดนี้ควรพราวด์มาก มันบอกว่าก็แซวไปงั้นแหละ

ตอนนี้น้อง ห มันเลิกอ่านไดอารี่ออนไลน์ไปแล้ว ฉันก็เลยนินทามันได้ (ที่จริงถึงมันอ่านก็เผาได้อยู่ดี) เล่าแบคกราวนิดนึง น้อง ห เป็นเด็กกรุงเทพนะ เรียนจบม เอกชนหรูด้วย น้อง ห เป็นรุ่นน้องที่ชอบปล่อยมุข แต่ฉันว่าที่ขำกว่ามุขที่มันปล่อยอีก ก็คือความเป๋อของมัน ที่จริงมีเยอะมาก(มันไม่ค่อยยอมรับหรอก) เอาพอเรียกน้ำย่อยก่อน อย่างแรกคือมันเป็นคนที่ไม่เข้ากันไม่ค่อยได้กับเครื่องมือต่างๆ มันก็ชอบปรึกษาพวกรุ่นพี่ เอาตัวอย่างนึงก่อน หลังจากพากันไปซื้อกล้องดิจิตอลรุ่นใหม่ของ คาสิโอ รุ่นที่แบนที่สุดในโลก น้อง ห ก็เอากลับบ้านไป แล้วพอคืนนั้นมันก็โทรมาหาฉัน "เจ๊ๆ กล้องมันเดี้ยงแล้วอ่ะ" ห น้ำเสียงร้อนรน "อะไรเพิ่งซื้อเนี่ยนะ"ฉันงง "เออ มันชาร์จไฟไม่ได้" "ดูให้ดียัง แบตล่ะใส่ถูกขั้วรึเปล่า" "เออ เอาใส่ไปแล้วน่ะ"ห ย้ำกับฉัน "ดูขั้วมันดีๆก่อนดิ"ฉันไม่เชื่อใจ ห หายไปแป็บ "ไม่มีขั้ว" "แกดูดีๆอีกทีซิ" หายไปอีก "เออ ดูแล้วว่ะที่ใส่น่ะเมโมรี่สติ๊กลืมใส่ถ่าน" ห ยอมรับ ฉันก็ว่าแล้วว่ามันต้องเป๋อ

มีอีกทีขี่จักรยานไปงานวัดกับมัน ระหว่างทางก็คุยกันไป "เจ๊ วันเสาร์นี้ไปกินข้าวบ้านลุงผมกันมั๊ย เค้ามีผักบุ้ง" ฉัน"เหรอๆ ผักบุ้งไทยรึจีน อยากกินเย็นตาโฟเนอะ" "ถึงยังไงก็ทำเย็นตาโฟไม่ได้หรอก จะไปหาเลือดมาจากไหน" ห บอก "ทำไมต้องใส่เลือดด้วยอ่ะ"ฉันงง "อ้าวก็ที่น้ำมันแดงๆเค้าใส่เลือดวัวเลือดควายไม่ใช่เหรอ" "แกจะบ้าเหรอเย็นตาโฟบ้านแกดิใส่เลือดควาย"ฉันหัวเราะแทบตกจักรยาน (คือน้อง ห มันเป็นคุณหนูแบบทำกับข้าวไม่เป็นเลยน่ะ โอย แต่ว่าใครจะนึกว่าในโลกนี้มีคนนึกว่าเย็นตาโฟทำมาจากเลือดควาย) มีอีกทีเรื่องกับข้าว มันโทรมาตามบ้านพี่ๆ "มาเอาไข่พะโล้ไปช่วยกินหน่อยดิ ผมทำไว้สิบฟองกินไม่หมด" ฉันก็เลยถามมันว่า"ทำทำไมอ่ะเยอะแยะ" "ผมอ่านวิธีทำที่ข้างซองผงพะโล้ เค้าบอกให้ใส่ไข่ 10 ฟอง ต่อผงพะโล้หนึ่งซอง ก็ต้องทำตามเค้าดิ" "ฮ่าฮ่า ทำไมแกไม่ทำครึ่งซองวะ" ฉันรับไข่พะโล้มันมาพร้อมกับหัวเราะเยาะเย้ยถากถางมัน แต่ว่ามันก็ทำอร่อยนะไข่พะโล้เนี่ย

previous - next