diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

25.04.2002 - 8:01 p.m.

เมืองที่ฉันอยู่เนี่ยเป็นเมืองเล็กๆ มีภูเขาแล้วก็มีทะเล ตอนที่ฉันมาถึงที่นี่ฉันรู้สึกชอบเมืองนี้มากเลย มันดูสงบน่าอยู่ไม่วุ่นวายเหมือนกรุงเทพที่ฉันจากมา แต่ก็มีความเจริญมาก ที่นี่ทำให้ฉันนึกถึงเมืองตากอากาศ เมืองรีสอร์ทที่ฉันจะ(คิดซะว่า)มาพักผ่อนได้ช่วงหนึ่งของชีวิตเลยทีเดียว

อพาตเมนท์ที่ฉันอยู่ก็ไม่ไกลจากโรงเรียนมาก แต่ถ้าเดินไปเรียน ก็ใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ตอนมาใหม่ๆ ฉันเลยนั่งรถรางไปโรงเรียน รถรางที่นี่เรียกว่ารถรางก็จริง แต่รูปร่างหน้าตามันเหมือนรถไฟฟ้ามากกว่า มันไม่ได้ออกแบบเหมือนรถรางที่ซานฟราน แต่นั่งรถรางบ่อยๆก็ไม่ไหวเพราะว่ามันแพง ค่ารถนั่งทีก็ เกือบหกสิบบาท เลยรีบไปซื้อจักรยานมาโดยไว

คนที่นี่ใช้รถจักรยานกันมาก มันเป็นทางออกที่ดีของการแก้ปัญหารถติดได้เลยล่ะ รถจักรยานที่นี่หน้าตาไม่เหมือนจักรยานบ้านเราเลย ที่นิยมกันก็มีหลายแบบ(ไว้จะถ่ายรูปมาประกอบดีกว่า อธิบายยาก)

1. มีแบบคันเล็กๆ ล้อจะเล็กมากดูน่ารักดีนะ แต่ว่าปั่นเหนื่อย ฉันว่าเหนื่อยพอกับเดินเลย

2. แล้วก็มีแบบที่เมืองไทยใช้กันทั่วไป แบบนี้จะเป็นจักรยานคุณป้าคือ แฮนยาวแล้วก็คานต่ำสำหรับคนแก่จะได้ขี่ง่าย

3. แบบที่ฉันซื้อก็คือแฮนด์สั้น คานสูงแบบนี้นักศึกษาใช้ขี่มาเรียนกันเป็นส่วนใหญ่

สีของรถจักรยานที่นี่ก็ต่างกับที่เมืองไทยมาก สีเงินจะเป็นที่นิยมมาก ฉันว่ามันสวยดี เพราะว่าไม่เคยเห็นที่เมืองไทย แล้วก็ไม่เก่าหรือดูเลอะง่ายด้วย เลือกเหมือนสีรถที่เมืองไทยเลย เพราะขี้เกียจล้าง แต่ไปมา ตอนนี้มานั่งผิดหวังเล็กๆ กับสีรถจักรยาน เพราะว่าสีมันเหมือนกับสีของคนอื่นไปหมด เวลาไปเรียนที่ตึกที่มีคนเยอะนะ หารถยากมาก ไม่น่าเล๊ย ไม่น่าซื้อสีนี้เลย

ปัญหาเกี่ยวกับรถจักรยานและฉันในตอนแรกน่ะ ไม่ใช่เรื่องสี แต่เป็นที่ฉันขี่จักรยานไม่เป็นน่ะ คือก็ไม่ถึงกับไม่เป็นเอาเลย แต่ว่าขี่จักรยาน BMX เตี้ยๆ ทีขาหยั่งพื้นถึงน่ะได้ เพราะว่าตอนเด็กๆ หัดมานิดหน่อย แต่จักรยานทั่วไปเนี่ย ขี่ไม่แข็งเลย ตอนที่ขี่ไปโรงเรียนวันแรก ขี่แค่ 15 นาทีก็ถึง แต่ว่ารู้สึกว่ามันนานมากจริงๆถึงตื่นเต้นมาก ถนนที่นี่จะฟุตปาทกว้าง แล้วเค้าก็ทำไว้ให้ขี่จักรยาน แต่ฉันก็กลัว ยิ่งถ้าถนนตรงไหนแคบๆเนี่ยกลัวมาก เพราะว่ายังบังคับรถให้ไปตรงๆไม่ค่อยได้ แต่ว่าก็ไปโรงเรียนได้ตลอด

จนกระทั่งมีอยู่วันหนึ่ง มีถนนอยู่ช่วงหนึ่งที่มัน ไม่ดีแล้วก็มีลุงๆ มาทำถนนแถวนั้นพอดี เค้าก็ปิดทาง ทำให้มันแคบไปอีก ฉันซึ่งก็ขี่จักรยานไม่คล่อง ก็เลยล้มเผละ จักรยานทับเอา เสียงดังมาก แล้วล้มก็เอาเข่าลง กางเกงยีนส์ที่ใส่น่ะถึงกับเกือบขาดตรงหัวเูข่า เข่าเขียวเจ็บไปหมดเลย นั่นก็เป็นล้มครั้งแรก

ต่อมา ที่หน้าปั๊ม ปั๊มที่นี่แย่มาก รอบๆปั๊มจะเป็นท่อน้ำทิ้ง แล้วมันก็ไม่มีฝาครอบ พอดีจะหลบคนน่ะ ฉันก็ขี่แฉลบไปทางรางน้ำพอดี เลยเสียหลักรถล้มไม่เป็นท่า หนำซ้ำโชคร้าย ดันใส่กางเกงยีนลีวายส์ตัวโปรดตัวเดิมที่เข่าเปื่อยจากล้มคคราวที่แล้ว เลยคราวนี้เข่ากระแทกพื้นเต็มๆ เลือดไหลกระฉูด ต้องไปหาหมอที่ห้องพยาบาลของโรงเรียน

ยังมีล้มอีกครั้งความจริงก็ขี่เก่งแล้วล่ะแต่ว่ามัวคุยเพลินไม่ได้ดูทาง ล้มแบบเอานิ้วลงพอดี นิ้วเลยซ้นอยู่เป็นปีทีเดียวกว่าจะหาย

ตอนนี้อยากจะคุยเหลือเกินว่าขี่เก่งมากแล้ว หน้าร้อนหรือฝนตก ก็สามารถขี่จักรยานกางจ้องได้ แบบสาวเชียงใหม่เลยทีเดียว สาวๆที่นี่ เค้าใส่กระโปรงขี่จักรยานเป็นเรื่องธรรมดา เพราะว่าเค้ามีความเป็น feminin สูงมาก เค้าชอบนุ่งกระโปรงกัน (ในความคิดของฉัน การนุ่งกระโปรงก็เป็นสัญญลักษณ์บ่งบอกได้อย่างหนึ่ง)

การเดินทางด้วยจักรยานเป็นการออกกำลังที่ดีด้วย และฉันก็มักจะหาทางไปโรงเรียนด้วยถนนสายใหม่ๆเสมอ ฉันว่ามันเป็นการเรียนรู้วิถีชีวิตของคนที่นี่ได้ดีเวลาเราเข้าไปในซอยเล็กๆ
เมืองที่ฉันอยู่

previous - next