diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

25.07.2002 - 3:45 p.m.

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เราไปกินข้าวเย็นกันที่บ้านพี่ไก่ มีการทำกับข้าวไทยกันก็เพราะว่า I.L. ผู้มาจากโอซาก้าอยากกินหมูสะเต๊ะ แอนก็เลยทำขนมจีนน้ำยาเพิ่มมากินกับสะเต๊ะด้วย ขนมจีนน้ำยาทำง่ายมากเลย แค่ใช้เนื้อปลาทูน่ากระป๋อง ต้มใส่กะทิ กับเครื่องแกงน้ำยาที่มีขายสำเร็จรูปก็ได้กินแล้ว ส่วนขนมจีนก็ใช้เส้นโซเม็ง เป็นเส้นก๋วยเตี๋ยวของญี่ปุ่นที่ทำมาจากข้าวเจ้าเหมือนกัน แค่นำมาต้มก็กินได้ ที่ทำยากน่ะคือหมูสะเต็ะ ไม่ยากหรอก แต่ว่าเสียเวลาตอนเสียบไม้กับตอนปิ้ง แต่ทำออกมาแล้วก็อร่อยเด็ดมาก ดูโปร มั๊ยล่ะ มีฉันเป็นผู้ปิ้ง และกำกับการเสียบไม้ (อาหารอย่างนี้ฉันไม่มีทางทำกินเองเด็ดขาด ใช้เวลาสุดๆ)

I.L. บอกว่าอยากจะไปที่ๆมีการเล่นคะยัก (คะยักต่างกับคะนูตรงไม้พาย ถ้าคะยักจะเป็นไม้พายเดี่ยว ต้องบิดพายซ้ายทีขวาที คะนูจะมีไม้พายสองอัน) แต่เนื่องจากมันไกล เราก็เลยเปลี่ยนแผนว่าจะไปแคมป์แทน

วันจันทร์ก็ออกเดินทางตอนบ่ายแล้ว ก็ตรงไปที่แคมป์เลย ขับรถไปไม่ไกลเท่าไหร่ (ชั่วโมงกว่าๆ) ก็ถึงแคมป์แล้วเพราะว่าเมืองที่ฉันอยู่น่ะมันก็ต่างจังหวัดสุดๆอยู่แล้ว เราไม่ได้เตรียมอะไรกันไปเลย เพราะว่าที่แคมป์มีเต็นท์ให้อยู่แล้ว ฉันก็นึกว่าที่ญี่ปุ่นอะไรมันก็ไฮเทค คงไม่ต้องเตรียมอะไรไปมากหรอก ที่เอาไปก็เลยมีแต่เสื้อผ้ากับสเปรย์ฉีดกันยุงน่ะ :P ดังนั้นเราก็เลยออกไปซื้อของกันที่ซุปเปอร์มาเกตที่ไม่ไกลจากแคมป์ ที่ซื้อก็มีแต่ของกิน กับ ดอกไม้ไฟ


ที่เห็นน่ารักๆในรูปคือดอกไม้ไฟเอาไว้เล่นกันตามฤดูร้อน

ที่แคมป์นี้เป็นของเอกชนเช่าเต็นท์แล้ว เค้าก็มีเตาปิ้งบาบีคิว แล้วก็อุปกรณ์การกินให้เสร็จ เราแค่เตรียมอาหารไปเท่านั้น เนื่องจากไม่มีที่ใส่น้ำแข็งมา เราก็เลยต้องหาที่แช่แตงโมกับเบียร์




เต็นท์ก็มีเตรียมไว้แล้วไม่ต้องกางเอง ใหญ่โตนอนได้5คน

ธารน้ำก็สวยดี ทำให้พวกเราได้มีการผจญภัยเล็กๆน้อยๆด้วยการเดินลุยธารน้ำ


น้ำตกของญี่ปุ่นต่างกับของไทยที่(ดูดีๆ) มีต้นเมเปิ้ล แค่นั้นแหละ

เค้ามีป้ายห้ามเล่นน้ำแถวน้ำตกด้วย ฉันก็เลยถาม M ว่าทำไมเหรอ ตานี่ก็ตอบว่า มันมีตัว คัปปะ (ตัวประหลาดในนิทานของญี่ปุ่น ที่ตัวเป็นสีเขียว แล้วบนหัวก็มีผมเป็นจานสีแดง เค้าเชื่อว่าตัวนี้อาศัยในน้ำแล้วจะมาคอยดึงขาคนให้จมน้ำ)


มองในแอ่งมีเขียวๆอยู่ น่ากลัวเหมือนกัน :P

ก่อนจะมาติดไฟเตรียมปิ้งบาบีคิว ซึ่งตอนแรกนึกว่าต้องรอนานซะแล้วกว่าจะติดได้ ไม้ขีดก็เตรียมมาแค่กล่องเล็กๆกล่องเดียว พอดี M ไปเจอที่ที่เค้า ให้ทิ้งถ่านที่ใช้แล้ว ก็เลยได้เชื้อไฟที่ยังไม่ดับมา สบายไป กินเนื้อย่างเสร็จแล้ว ก็นั่งร้องเพลง(เวลาอยู่ไกลบ้านแล้วร้องเพลงเดือนเพ็ญตอนที่เห็นพระจันทร์เกือบเต็มดวงเนี่ย มันซึ้งจนขนลุกเลยนะ) แล้วก็เล่นดอกไม้ไฟ เนื่องจากเป็นวันธรรมดา ที่แคมป์เลยมีคนมาแค่สองกลุ่ม แล้วก็อยู่ไกลกันมาก พวกเราเลยอิสระเสรี เล่นทั้งดอกไม้ไฟที่เมืองไทยเรียกว่าผึ้ง ลูกข่าง แล้วก็ต่อด้วยไฟเย็น รูปร่างไฟเย็นเค้าน่ารักมาก ทำด้วยกระดาษสีสันสวยๆ ถือด้านบนแล้วปล่อยให้ห้อยลงมา ไม่เหมือนบ้านเราที่ทำเป็นรูปร่างเหมือนธูป


พอถึงตอนนอนเค้าไม่มีที่นอนให้นะ ต้องนอนบนพื้นไม้ที่มีแค่ผ้าพลาสติกปูทับ ตา M บอกให้แอนเอาที่นอนมา แอนก็เลยมีที่นอนบางๆมา แต่ว่าดันไม่บอกฉัน บอกให้เอามาแต่ผ้าห่ม ฉันก็เอามาแต่ผ้าห่มบางๆ ตา M บอกว่าเค้าเคยชินเพราะว่าเรียนคณะที่ต้องเข้าป่า นอนเต็นท์บ่อย ไม่ด้องมีอะไรก็นอนได้ ฉันก็ทำใจ คิดว่านอนก็นอน เลยเอาผ้าห่มที่เป็นเหมือนผ้าขนหนูพับครึ่ง ไว้นอนครึ่งนึง ห่มครึ่งนึง ทุลักทุเลเล็กน้อนตอนพลิกตัว ซักตีสามได้ ฉันก็ตื่นขึ้นมาเพราะความหนาว ตอนก่อนนอน ฉันว่ามันน่าจะซัก 25 องศาได้ อากาศสบายๆ เหมือนนอนห้องแอร์ แต่ว่ามันหนาวขึ้นๆ ฉันใส่เสื้อยืดกับกางเกงวอร์ม เลยต้องเอาเสื้อยืดมาใส่ทับอีก เท้างี้เย็นมาก ฉันว่าอากาศมันต่ำกว่า ยี่สิบแต่ไม่รู้เท่าไหร่ ฉันไม่ได้เตรียมถุงเท้ามาด้วย เพราะว่าตอนนี้หน้าร้อนไม่นึกว่าจะหนาวเลยใส่รองเท้าแตะมา หนาวนอนไม่หลับ เลยไปขโมยค้นๆกระเป๋าตา M เจอแต่ถุงเท้าใส่แล้ว ก็ยังดีฟะ ได้ถุงเท้า(ใส่แล้ว)ของตา M เนี่ยแหละช่วยชีวิต

พยายามนอนต่อก็นอนไม่หลับ มันยังหนาวอยู่เพราะว่าไม่มีผ้าห่ม เลยนั่งด่าตา M ในใจว่าต่อไปจะไม่เชื่อตานี่แล้ว คราวที่แล้วก็ทีแล้ว ฉันไปเที่ยว yakushima กับทริปของโรงเรียน Yakushima เป็นเกาะที่มีต้นไม้ใหญ่ๆอยู่มาก สวยงามจนได้รับการจัดให้เป็นมรดกโลก ไปตอนหน้าที่ไม่หนาว แต่ว่ามันเป็นป่า ฉันว่ามันจะหนาวมั๊ยนะ ก็ถามตา M ซึ่งน่าจะเป็นผู้รู้ ดันบอกว่า ถ้าเธอเอาแจ็กเก็ตไปก็เป็นตัวตลกแน่ แต่พอไปถึง มันต้องนั่งเฟอรี่ข้ามเกาะไป 3 ชั่วโมงได้มั๊ง หลังจากนั่งเล่นไพ่กันก็แล้ว ก็ยังไม่มีอะไรทำ เพื่อนๆก็นอนกันบนเรือ เอาแจ็กเก็ตที่มีฮู๊ดคลุมหน้า ก็หลับกันสบาย ฉันดิ ไม่มีแจ็กเก็ต บนเรือก็หนาว นอนไม่ค่อยได้ ไปถึงเกาะ อากาศก็เย็นเพื่อนๆ ใส่แจ็กเก็ตกันสบายเฉิบ มีฉันต้องยืมเสื้อเพื่อนใส่ ตอนนั้นก็นั่งแช่งชักตา M ไปทีแล้ว :( ต่อไปนะ ไปไหนจะเอาแจ็กเก็ตที่มีฮู๊ดไปตลอดเลย เข็ดแล้ว

ฉันนอนหลับอีกทีตอนหกโมงได้ ตื่นมาอีกทีตอนแปดโมงเช้า ในเต็นท์ร้อนตับแตก เพราะว่าพระอาทิตย์ขึ้นแล้ว ตอนเช้าก็ไปเดินเล่น ก่อนที่จะไปอาบน้ำที่ออนเซ็นที่อยู่ไม่ไกล แล้วก็ลงมากินโซเม็ง โซเม็งในที่นี้ก็คือหมี่เย็น เหมือนที่พวกเราเอามาดัดแปลงเป็นเส้นขนมจีนแหละ แต่ว่าของญี่ปุ่นเค้ามีวิธีกินที่สนุก คือโบราณเค้าจะเอาไม้ไผ่บ้องใหญ่ๆมาหั่ึนกลาง แล้วก็วางไว้ที่น้ำตก ให้น้ำไหลผ่านกระบอก แล้วก็เอาเส้นโซเม็งวางไว้ที่ด้านบนสุดของกระบอกไม้ไผ่ คนที่อยู่ด้านล่างก็รอกินเส้นเม็งเย็นๆ แต่ว่าปัจจุบันเค้าไม่ทำแบบนั้นกินกันแล้ว เค้าประดิษฐ์เครื่องที่จะดูดน้ำขึ้นมาบนโต็ะกลมๆ แล้วน้ำก็จะไหลวนอยู่บนโต็ะ คนกินก็เอาเส้นใส่ น้ำก็จะไหลเอาเส้นวนไปรอบๆโต็ะ กินกันหลายๆคนสนุกมาก

ก่อนกลับ เราก็ต้องจัดการทิ้งขยะที่เรานำมา ที่แคมป์ไม่มีที่ให้ทิ้งขยะเลย แต่ว่าก็ไม่มีใครทิ้งขยะเกลื่อนกลาด ไม่มีเลยซักนิด แม้แต่กระป๋องน้ำหรืออะไร เค้าเอาอะไรมา เค้าก็เอากลับไปทิ้ง นึกเปรียบเทียบกับพี่ไทย ตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มีขยะเกลื่อน ทั้งๆที่มีุถังขยะให้ทิ้งอยู่ไม่ไกล แค่เดินหน่อย มีอะไรก็ยัดลงถังขยะได้ ที่ญี่ปุ่น ขยะก็ต้องแยกด้วย -ขยะเผาได้ -ขยะพวกพลาสติกที่เผาไม่ได้ -พลาสติกที่รีไซเคิลได้ -พวกกระป๋อง -ขวดน้ำที่เป็นพลาสติก ห้ามทิ้งรวมกัน พวกฉัน พอออกจากแคมป์แล้ว ก็ต้องขับรถตระเวนหาที่ทิ้งขยะ แบบต่างๆด้วย

แต่ว่าก็ไม่ใช่ญี่ปุ่นทุกคนจะเป็นคนดีหรอกนะ อย่างที่อพาตเมนท์ที่ฉันอยู่ตอนนี้ เนื่องจากขยะที่นี่ต้องแยก วันที่จะทิ้งขยะแต่ละแบบได้ก็มีกำหนดด้วย ระยะหลัง ซักสองสามอาทิตย์มานี้ มีคนทิ้งขยะผิดวันอย่างตั้งใจ คือ เอาขยะที่ไม่สามารถทิ้งได้ในวันที่กำหนดมาทิ้ง พอมีคนทำคนนึง ก็มีคนเลียนแบบ คนเก็บขยะเค้าก็ไม่เก็บไป ขยะก็วางสุมเกลื่อยอยู่หน้าอพาตเมนท์ ขยะที่นี่ต้องใส่ถุงพลาสติกใส ฉันเห็นแล้วรับไม่ได้เลย ตอนแรกก็คิดว่าจะ ขนถุงขยะนี้ไปวางที่หน้าบันไดแทน เพราะว่า คนที่ทิ้งน่ะ ฉันไม่รู้ว่าใครแต่ว่าอยู่ชั้นบนแน่ แต่กลัวว่าย้ายไปแล้ว มันก็ยังอยู่ที่บันไดอย่างนั้น พอดีมีตา M เกิดไอเดียเดียวกัน มายุฉันเข้า ฉันเลยจัดการเคลื่อนย้ายขยะ ไปที่บันไดให้พวกมันรู้ว่าไม่ใช่วัน ก็ไม่ต้องมาทิ้ง ทีแต่ก่อนพวกมันยังเก็บไว้ในห้องมันได้เลย คนอื่นเค้าก็เก็บได้ เคลื่อนมาได้ตั้งแต่วันจันทร์แล้วมันก็ยังอยู่อย่างเดิม ทุเรศจริงๆ เดี๋ยวต้องไปคิดแผนเพิ่มเติม มาสั่งสอนพวกมักง่ายอีก

ปล วันนี้มีพายุเข้าอีกแล้ว แรงด้วย ต้องรีบกลับบ้าน พรุ่งนี้มีสอบภาษาญี่ปุ่น อาจงด ซึ่งก็จะดีมากเลย เพราะว่ายังไม่ได้อ่านซักตัว

previous - next