diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

26.03.2004 - 4:58 p.m.

ติดละคร

ตอนนี้ฉันติดละครมาก อย่าเข้าใจผิดไป ไม่ใช่เรื่องคู่กรรมหรอก นั่นน่ะเลิกดูไปตั้งแต่ปีมะโว้แล้ว(รวมทั้ง ม ด้วย) ทำไมนาย พิง ลำพระเพิง นี่เค้าดูถูกคนจังเลยล่ะ ทำไมเค้าต้องย่ำยีนวนิยายดีๆและย่ำยีคนดู เค้าคิดว่าคนไทยที่ดูละครเป็นคนระดับไหนของสังคม แล้วคนระดับล่าง ไม่รู้จักเสพนวนิยายที่ดีๆได้เลยเหรอ ทำไมเค้าต้องแปลงเนื้อเรื่องคู่กรรมให้เป็นเรื่องซินเดอเรลล่าด้วย นางเอกมีแม่เลี้ยงใจร้าย และน้องเลี้ยงใจร้าย 2 คนด้วยนะ มีงานปาร์ตี้และเกือกแก้วหลุดด้วย คนไทยเราไม่ได้ปากจัดตลาดกันเหมือนอย่างที่ละครคุณอยากให้คนเป็นหรอก ....................... มันดูถูกกันมากไป

ละครที่ฉันติดตอนนี้คือเรื่อง Taken ของ สพีลเบิร์กเค้า ฉันอาจจะช้าไปหน่อย ก็มันเพิ่งมีให้ดูน่ะ ฉันถึงกับไม่ไปทำงาน ไม่ออกจากบ้าน รอดูเรื่องนี้ตอนเที่ยง ที่จริงฉันชอบหนังแนวมนุษย์ต่างดาวน่ะ (รู้สึกเหมือนเพิ่งค้นพบตัวเอง) ที่จริงชอบมาตั้งแต่ x ไฟล์ แล้วก็พวก รอสเวลล์ อีทีก็ชอบ ดูครั้งแรกยังน้ำตาซึมเลย

จบตอน ...........................................................

หนังสือ

ตอนนี้กำลังย้อนกลับไปอ่านหนังสือเก่า อยากจะหาหนังสือเรื่องที่ชอบมากที่สุด อยากมีหนังสือในดวงใจเหมือนคนอื่นเค้าบ้าง หามาตั้งนานแล้วก็ไม่เคยเจอ นี่เพิ่งอ่านหนังสือเรื่องสิทธารถ จบไป ฉันชอบหนังสือเรื่องนี้มาก คุณเคยมั๊ย ที่บางที หนังสือบางเรื่อง มันก็ไม่ได้ให้อารมณ์สนุกมาก หรือว่าเศร้ามากชวนติดตามจนวางไม่ลง หนังสือทำนองนั้นฉันว่ามีอยู่มากนะ แต่ว่าหนังสือที่บางทีอ่านไม่สนุกหรอก แต่ว่าระหว่างอ่านหรือพออ่านจบแล้วมันทำให้คุณมีไฟที่จะทำอะไรบางอย่าง เหมือนกับมันตอบคำถามและเป็นแรงกระตุ้นคุณได้ ฉันว่า แวววัน และ สิทธารถ เป็นหนังสือจำพวกหลัง ถ้าจะถามว่าสิทธารถ เป็นหนังสือในดวงใจรึเปล่า คงต้องตอบว่าเปล่า เพราะว่ามันอ่านไม่สนุก แต่ถ้าถามว่าอยากกลับมาอ่านบ่อยๆมั๊ย คงต้องตอบว่าอยาก

จบตอน ...........................................................

ทาทา ยัง

เมื่อหลายอาทิตย์ก่อน นั่งรถไปในเมืองกับ ม เราก็นั่งฟังเพลงสถานี 102.5 ฉันชอบฟังช่องนี้ตอนเที่ยงๆวันเสาร์อาทิตย์ เค้าจะเปิดเพลงนานาชาติ แนวฟังสบาย ทีนี้ระหว่างฟังอยู่ก็น้องคนฟัง โทรเข้ามาบอกว่าขอเพลงของ ทาทา ยัง (ตอนที่ฟังวิทยุนั้นเพลงเธอยังไม่โปรโมต) เธอโกอินเตอร์แล้ว ทางสถานีจะยอมเปิดให้มั๊ย ดีเจสองคนก็คุยกัน ว่าได้สิทำไมจะไม่ได้ เดี๋ยวฟังเพลงจบแล้ว เรามาวิจารณ์กันนะว่าเค้าจะโกอินเตอร์รอดรึเปล่า ทำนองนี้ แล้วเค้าก็เปิดเพลง ฉันได้ยินเข้าถึงกับตะลึง มันแบบว่า เพราะมากๆ เสียงมีพลังมาก ฉันเลยรีบบอก ม ว่านี่ๆคนไทย ทาทา เค้าเป็นคนมั่นใจในตัวเองมาก และออกจากค่ายแกรมมี่มา คนไทยเลยไม่ชอบ ม ก็ชอบเพลงที่เปิดมาก บอกว่าเค้าร้องเพลงมีพลังจริงๆ เพลงเพราะ ชื่นชมทำนองว่า ถ้าออกมาแล้วทำเพลงได้ดีขนาดนี้ ก็น่าจะออกมามากกว่าอยู่ค่ายเก่าทำแต่เพลงป๊อบตลาด (เพลงที่ฟังเป็นแนวแจ๊ซน่ะค่ะ ดนตรีแน่นมาก) ฉันถึงกับพูดว่าฉันจะไปซื้อซีดีทาทา

ต่อมาทันใด วิทยุก็มีเพลงป๊อบด๊านซ์ จากนักร้องที่เหมือนคนจมูกบี้ ฉันเริ่มเอะใจแต่ไม่ได้พูดอะไรออกไปกับ ม พอเพลงจบดีเจเค้าก็เฉลย ว่าเพลงของทาทา ฉันแบบอายมาก จนไม่กล้ายอมรับกับ ม ว่าพวกเราเข้าใจผิด ฉันไม่อยากให้ ม เค้าคิดว่าเพลงไทยเรามีแต่ป๊อบ เลยไม่บอกความจริงกับ ม ไป คงไม่บาปนะ เพราะไม่ได้โกหก

ต่อมา อาทิตย์ที่แล้ว เค้ามีเทศกาลเพลงที่พัทยา ฉันก็เปิดทีวีค้างๆเค้าไว้ ทีนี้เค้าฉายไปทีเวทีแจ็ซพอดี ฉันได้ยินแว่วๆ ว่าต่อไปเป็นนักร้องจากลาว เค้าก็ออกมาร้องเพลงแจ๊ซ แบบทำนอง นิวออลีนแจ๊ซน่ะนะ เพราะมาก ม โผล่มาพอดี รีบบอกฉันว่า "นี่ไงๆเธอ นักร้องคนนี้ใช่มั๊ยที่เธอเคยเล่าให้ฉันฟัง"(หมายถึงทาทา) ฉันอายมาก หลบๆตาแล้วพูดทำนองว่า "เอ่อ รู้สึกว่าเค้าจะเป็นนักร้องจากลาวน่ะ" ม เถียงคอเป็นเอ็น "ไม่ใช่หรอกมั๊ง คนนั้นไงที่เธอเล่าให้ฉันฟังในรถไง" ฉัน คิดว่าเอาไงก็เอาฟะ "จำไม่ได้แล้ว คนลาวมั๊ง เอ หรือจะเป็นคนไทย" แล้วก็รีบจบบทสนทนา ม เค้าจะได้รู้สึกดีๆต่อไปไง

จบตอน.................................................

ถ้า ม เปลี่ยนไป

มีคำถามมาจากพี่ปุ๊ก ว่าคนเราอยู่ด้วยกัน คุยเรื่องอะไร หรือว่าไม่ค่อยได้คุยกัน พอดีตอนนี้ฉันก็มีเรื่องรบกวนจิตใจพอดี เลยเอามารวมใส่ตอนนี้ด้วยละกัน

ตั้งแต่ที่ฉันรู้จักกับ ม ใหม่ๆ ฉันรู้สึกว่าฉันชอบคนนี้เพราะเขาเป็นเพื่อนที่ดีได้ด้วย เขามีอะไรเหมือนๆกับฉัน พูดคุยคลื่นเดียวกัน มีรสนิยมที่คล้ายกัน อย่างชอบฟังเพลงที่เหมือนกัน ชอบดูหนังที่เหมือนกัน รสนิยมเรื่องอาหารการกิน และมีอุดมการณ์เหมือนกัน

ฉันก็พบว่าความคิดเห็นของฉันกับ ม มักจะคล้ายกันด้วย ฉันรู้สึกว่าฉันอยู่กับ ม เหมือนอยู่กับเพื่อน เหมือนมีสัตว์เลี้ยง(รู้สึกอย่างนั้นจริงๆนะ) แบบว่าเวลาเซ็งๆก็ไปลูบหัว ม เล่นได้ หรือเบื่อๆก็เล่นแต่งหน้าให้ (เหมือนมีตุ๊กตาด้วย) เวลาพบเห็นอะไรใหม่ๆ ก็มักจะมีเรื่องเล่าให้กันฟัง ส่วนมาก ม เค้าจะมีเรื่องตลกมาเล่าให้ฟัง เรื่องคนที่ทำงานบ้าง เค้าไม่เคยเล่าเรื่องงานหรือว่าเรื่องกลุ้มใจให้ฉันฟังเลย (เค้าเหมือนพวกฟอร์เวิร์ดเมล์เรื่องชายโหนต้นไม้ก่อนเข้าบ้านน่ะ) ในขณะที่ฉันจะมีเรื่องโน้นเรื่องนี้กลุ้มใจไม่ได้หยุดหย่อน คอยปรึกษาเค้าเรื่อย

แต่ก็มีเวลาส่วนตัวเหมือนกัน บางทีต่างก็มีโลกส่วนตัวนะ อย่างต่างคนอ่านหนังสือไป หรือ ม เค้าวาดรูป เล่นเกมส์ ฉันก็เล่นโน่นนี่ไป บางทีไม่มีเรื่องใหม่ๆให้คุยกันทุกวันหรอก แต่ว่าก็จะคุยกันว่าวันนี้ไปทำอะไรมาบ้าง ไปเจออะไรมาบ้างมากกว่า

ฉันคิดว่าฉันรู้จักเค้าดีจนกระทั่งเมื่ออาทิตย์ก่อน ม ได้ หย่อน บอบ์มเข้ามาในหัวฉัน เมื่อเค้าพูดว่า ฉันคิดว่าฉันจะเริ่มเล่นกอล์ฟล่ะ

กอล์ฟเป็นกีฬาที่ฉันเกลียดมาก เพราะทำลายสิ่งแวดล้อม พอ ม พูด ฉันก็เริ่มทะเลาะ อ้างสิ่งแวดล้อม ในขณะที่ ม อ้างว่า คนชอบช็อปปิ้งอย่างฉันก็ทำลายสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน โดยการสร้างขยะให้โลก และกล่าวหา ว่าฉันแค่ไปตลาดก็ต้องเอารถไป ทำไมไม่เดินล่ะ หรือไปทำงาน ทำไมไม่นั่งรถเมล์ฉันก่อมลพิษเหมือนกัน ม บอกว่าเป็นเพราะฉันเกลียด เลยต้องบังคับคนอื่นเหรอ ฉันผู้ซึ่งเริ่มเหนื่อยกับการต่อล้อต่อเถียง ก็มาคิดว่าฉันไม่มีสิทธิบังคับจิตใจใคร เลยบอกเค้าไปว่า อยากเล่นก็เชิญตามสบายละกัน

ฉันรู้สึกเศร้ามากกว่า เพราะฉันคิดว่า ม เค้าเหมือนฉันไง รักสิ่งแวดล้อมเลยไม่เล่นกอล์ฟ แต่เค้ากลับบอกว่าเค้าเคยเรียนตอนอยู่มหาลัยฉันก็รู้ แต่ว่าที่ไม่ได้เล่นต่อเพราะว่าไม่เห็นว่ามันสนุก แต่ตอนนี้ พอไปทำงานบริษัทญี่ปุ่น ทุกวันจะมีแรงกดดัน มีคนถามทุกวันว่าให้เล่นกอล์ฟ

นี่แหละที่ฉันเศร้าใจกับการเปลี่ยนแปลงของเค้า เค้าจะไม่เป็น ม คนเดิมที่ฉันรู้จักอีกต่อไปแล้ว ถ้าเค้าเล่นกอล์ฟ เค้าก็จะกลายเป็นนักธุรกิจไร้สมองบ้ากอล์ฟเข้าตามสูตร น่ากลัวกว่าการทำลายสิ่งแวดล้อมเสียอีก เพราะว่าเค้าได้ทำลายสิ่งดีๆในตัวเค้าไป ที่ฉันคิดว่าเค้าคิดเหมือนกับฉัน มันเหมือนกับผิดไปเลย

ยิ่งเหตุผลที่ว่า เล่นกอล์ฟจะได้รู้ข่าวสารวงใน ในเรื่องธุรกิจ ฉันถึงกับพูดไม่ออก

ทางเลือกของฉันล่ะ ก็คือ ฉันคิดว่าตอนที่เค้าไปเล่นกอล์ฟ ฉันจะเข้าวัด ฉันหาที่ๆมีการนั่งสมาธิแล้วไปวัด หรือไม่ ถ้าฉันไม่อยากสูญเสีย ม ไป ฉันก็ต้องไปกับ ม ตลอดไปหัดตีกอล์ฟ กีฬาที่ฉันแสนเกลียด ถ้าจะถามว่าทำไมฉันไม่ไปทำอะไรอย่างอื่นล่ะ อย่างกวาดบ้าน นั่งรอ ม ระหว่างที่เค้าไปตีกอล์ฟน่ะ คงไม่หรอก เพราะว่าคนอย่างฉันมันบ้าสุดโต่งไงล่ะ

previous - next