diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

27.11.2002 - 1:08 p.m.

Aloha Hawaii

พรุ่งนี้จะไปเที่ยวโอซาก้าต่อ วันนี้มาอัพเดตเรื่องเที่ยวฮาวายคราวที่แล้วก่อน เป็นการเรียกน้ำย่อย เรามาเริ่มเดินทางกันเถอะ

ตื่นแต่เช้าตรู่ไปที่สนามบินอย่างเช้ามากผิดวิสัยปกติที่ฉันจะไปรอที่สนามบินเร็วเว่อร์ ไม่ได้เป็นเพราะฉันตื่นเต้นจะได้ไปอเมริกาเป็นครั้งแรกหรอก ก็เป็นเพราะบริษัททัวร์แหละนัดเช้ามาก ไปถึงก็ยังมีเวลาเหลือ ก็ไปนั่งจิบกาแฟกินอาหารเช้ารอเวลา แล้วก็เดินไปที่ทัวร์เค้านัด แต่ด้วยความเปิ่นเป๋อ แน่นอน ฉันก็ดันทำหมวกที่ถักเองหาย เศร้ามากเลย กะว่าจะเอาไปใส่ที่โซล แต่ว่านึกขึ้นได้ว่าคงลืมไว้ที่ร้านกาแฟ เลยกลับไปเอา ดีใจจัง ที่ญี่ปุ่นนี่ของไม่มีหาย

หลังจากนั้นทัวร์เค้าก็แจกตั๋วเครื่องบิน ฉันดูรอบๆคนที่มาทัวร์นี้ นึกว่าจะมาเป็นคู่ๆ แบบว่าฮาวายน่ะนะ แต่การณ์กลับไม่เป็นไปตามที่คาด มีแต่ลุงๆ จับกลุ่มมาเที่ยวกันเอง มีลุงคนนึงท่าทางจะโชว์ออฟมาก เพราะแกหันไปพูดกับเพื่อนแกเป็นภาษาอังกฤษว่า เฮอลี่ๆ(อยากพูด Hurry แต่พูดไม่ชัด) หลังจากรับเอกสารต่างคนก็แยกย้ายกันขึ้นเครื่องของสารการบินเกาหลีเปลี่ยนเครื่องที่สนามบินอินจอน พอไปถึงสนามบินฉันก็ดีใจมาก นึกว่าจะได้เข้าโซลไปชอปปิ้งซะหน่อยเนื่องจากมีเวลาเกือบทั้งวัน แต่ว่าไกด์เกาหลีบอกว่าเข้าเมืองไม่ได้เพราะว่ารถติดมาก เลยแค่พาไปเที่ยวสนามบอล ฉันไม่แน่ใจว่าการพาเที่ยวระหว่างรอเปลี่ยนเครื่องนี้เป็นบริการของสายการบินเกาหลีสำหรับผู้ที่มาจากญี่ปุ่นรึเปล่า เพราะรู้สึกว่าทุกคนที่บินกับเกาหลีแอร์จะเจออย่างนี้หมด คือพาเที่ยวและพาไปกินเนื้อย่างฟรี (ฉันว่ามันเป็นบริการที่ดีมากเลยนะ) หรือว่าคราวนี้มันจะเป็นเซอร์วิสของบริษัททัวร์ฉันก็ไม่แน่ใจนัก เพราะว่าหลังจากพาไปดู"สนามบอลโซล"แล้ว ไกด์ก็พาไปดูโชว์รูมพลอย พวกตาลุงที่ทำเก๋าก็จะทำเป็นไม่ให้ความร่วมมือกับไกด์ คือไม่ยอมลงจากรถทัวร์ แต่ว่าพวกเราเดินตามไปโดยดี เพราะว่ามาสะให้เหตุผลว่า บริษัทพลอยเค้าอาจจะเป็นสปอนเซอร์เนื้อย่างก็ได้ ควรจะให้ความร่วมมือกับเค้าหน่อย ฉันก็เลยเห็นด้วย ทำเป็นเดินวนๆดูพลอย แต่ว่าก็มีคนในทัวร์ซื้อพลอยจริงๆ ไม่ได้แค่แกล้งสนใจอย่างเรา ก็สมกับคนญี่ปุ่นน่ะนะ อะไรๆก็ถูกไปหมด แวะนิดแวะหน่อยเห็นอะไรก็ซื้อ

หลังจากนั้นรถทัวร์ก็พาเราไปกินเนื้อย่างเกาหลี เนื้อย่างแบบที่หมักแล้วเรียกว่าบุลโกกิ อร่อยมาก กินฟรี แต่ว่าค่าน้ำก็จะชาร์จแพงมาก เรารู้อยู่ก่อนแล้วก็ไม่ได้สั่งอะไรมาก น้ำซ็อสที่ทำมาจากเต้าเจี้ยวแบบเผ็ดที่นี่อร่อยมากที่สุดตั้งแต่เคยกินมาเลย โอยนึกแล้วยังน้ำลายไหล :P*

หลังจากนั้น เราก็กลับไปยังสนามบินเพื่อขึ้นต่อเครื่อง ระหว่างรอแถวนั้นเอง ก็มีสาวเกาหลีที่ยืนต่อแถวข้างหน้าฉันมาจับหมวกที่ฉันถืออยู่ แล้วส่งภาษาเกาหลี มาสะก็เลยส่งภาษาใบ้ทำเป็นท่าถักตอบแทนฉันไปว่า ฉันถักเอง เรื่องนี้ทำให้ฉันปลื้มมากว่าหมวกที่ฉันทำนี่สวยอินเตอร์ ฮิฮิ อีกเรื่องที่งงก็คือหน้าฉันก็ออกเกาหลีกับเค้าเหมือนกันแฮะ ระหว่างรอเครื่อง เราก็เลยสังเกตุสาวเกาหลี สาวเกาหลีตอนนี้กำลังฮิตทำผมสั้นแล้วก็ดัดลอนใหญ่ๆ ที่สำคัญเค้าเซ็ทผมเหมือนคนไทยเลย คนญี่ปุ่นจะมีคนเซ็ทผมน้อยมาก แล้วก็สาวเกาหลีแต่งหน้าจัด ถึงจัดมาก จัดกว่าคนญี่ปุ่นเยอะเลย แล้วก็ทาปากสีเข้ม แดงโทนน้ำตาลคงจะอินเทรนอยู่ ที่ญี่ปุ่นหน้าร้อนหน้าหนาวปากก็จะชมพูเหมือนเดิม (ตอนมาเกาหลีคราวที่แล้วไม่รู้สึกว่าเค้าแต่งหน้ากันจัดเท่านี้นะ อาจจะเป็นเพราะสีลิปของหน้าหนาว)

แล้วเราก็ขึ้นเครื่องบิน 7 ชม ไปฮาวาย เครื่องออกไปได้นิดนึงเค้าก็เสิร์ฟอาหาร ตอนแรกฉันคิดว่าจะไม่กินอะไรแล้วเพราะว่าอิ่มมากจากเนื้อย่าง แต่ว่าพอเห็นอาหารที่เค้าเสิร์ฟคือ บิบิมบะ ที่ฉันชอบมาก เลยคิดว่าจะลองชิม แต่ว่ามันอร่อยมากเลย เลยฟาดหมดเกลี้ยง สายการบินเกาหลีนี่อาหารอร่อยมากเลยขอชมเชย แต่ว่าที่เกลียดมากคือ ระหว่างที่เครื่องตกหลุมอากาศมันจะต้องประกาศให้รัดเข็มขัดทุกครั้งพร้อมทั้งเปิดไฟ แล้วเครื่องนี่ตกหลุมอากาศบ่อยมาก กัปตันจะต้องประกาศตลอด เรียกว่าไม่ได้นอนพักเลย เซ็งจริงๆ บ๊ายบายกันเลยดีกว่าสายการบินนี้

พอไปถึงฮาวายตอนเช้าก็เลยง่วงมาก เพราะได้นอนซักชั่วโมงเองมั๊ง สนามบินฮาวายใหญ่โต เป็นตึกที่ดูเป็นอเมริกามาก แต่ว่าสิ่งแวดล้อมนี่ดูเหมือนเมืองชายหาดมาก เพราะว่ามีต้นปาล์มเยอะแยะ นักท่องเที่ยวมาฮาวายเยอะมาก คิวยาวต่อแถวเข้าเมือง หลังจากออกจากสนามบิน บริษัททัวร์ญี่ปุ่นก็เรียกนักท่องเที่ยวมารวมพล แล้วก็ให้พวกเราไปถ่ายรูปทีละคนกับสาวที่แต่งชุดอะโลฮ่า แล้วจะได้อัดมาขายพวกเราต่อตอนหลัง แน่นอนว่าตอนหลังฉันก็ไม่เอาอยู่แล้วเพราะว่าไม่ชอบโดนหลอกและโดนบังคับ ถ้าอยากถ่ายถ่ายเองได้ หลังจากนั้นก็ยังพาพวกเราไปบริษัททัวร์เพื่อที่จะถามว่าใครจะซื้อทัวร์ไปทำอะไรบ้าง ฉันทั้งเบื่อและง่วงและเหม็น เพราะมีตาลุงสองคนตัวเหม็นมากที่มากับทัวร์เรา เลยหนีไปนั่งหลับ กว่าจะจัดเสร็จว่าใครจะซื้อทัวร์อะไร คือเลิกว่าอยากเล่นอะไร ทัวร์เค้าก็จัดให้เสร็จ อย่างไปตกปลา ไปกินอาหารค่ำบนเรือ ดูโชว์เต้นระบำ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับฉันเลยเพราะว่าไม่ได้ซื้อทัวร์ที่เป็นออปชั่น ฉันจะเที่ยวเอง

หลังจากนั้นเค้าก็เรียกพวกเราขึ้นรถพาขับชมตัวเมือง waikiki โดยไกด์ที่เป็นคน Japanese-American พาไปเลี้ยงอาหารกลางวันด้วย ฉันซึ่งตอนนี้ง่วงมาก เริ่มสติแตกทำบัตรอาหารหาย เลยไปซื้อฮอทดอกกิน(คือที่จริงมันเป็นความใฝ่ฝันของฉันว่าฉันจะต้องลองกินฮอทดอกของอเมริกาให้ได้ เพราะเห็นในทีวีมันอันใหญ่เวอร์ดี) ฉันก็จัดการสั่งฮอทดอก แต่ว่าเค้าถามฉันว่าต้องการให้ใส่อะไรบ้างไง ฉันก็เพิ่งเคยกินครั้งแรก แล้วก็โดนภาษาญี่ปุ่นของไกด์และอื่นๆกรอกหูมาตลอด ก็เลยบอกให้เค้าพูดใหม่อีกที แต่แทนที่จะพูดว่า Pardon หรือ Sorry ดันพูดไปว่า ไฮ้? เป็นการถามให้เค้าพูดใหม่แบบญี่ปุ่น เวรจริงๆ คนขายเลยพยายามจะพูดภาษาญี่ปุ่นกับฉัน(คนที่นี่พูดภาษาญี่ปุ่นได้เกือบทุกคนนะ มากน้อยต่างกันไป) ถ้าใครหน้าเอเชียและไม่มีสำเนียงอเมริกาแท้แล้วละก็ ถึงมั่นใจว่าตัวเองเก่งภาษาแค่ไหน รับรองได้ว่ามาฮาวายสียเซ้วแน่นอน เพราะเค้าจะพูดภาษาญี่ปุ่นใส่คุณแทน

ฮอทดอกอร่อยดีมีรสชาตแบบฮาวายด้วยเพราะว่าใส่ chili มันคือถั่วแดงต้มคล้ายอาหารแมกซิกัน แต่ว่าเผ็ดกว่า หลังจากกินเสร็จเค้าก็ให้เดินชอปปิ้งที่ห้างที่ขายของที่ระลึกแล้วก็พาไปที่จุดชมวิวแล้วก็พากลับโรงแรม ฉันก็เปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะจากโซล 3 องศา มาฮาวายร้อนมากเลย หลังจากนั้นก็ไปดูพระอาทิตย์ตกที่หาด โดยซื้อถั่วไปนั่งกินริมหาด ไม่มีความโรแมนติกเลยจริงๆ :P ค่ำนั้น หาอะไรกินง่ายๆ มีร้านพิซซ่าอยู่ริมถนนเลยเข้าไปนั่งกิน พิซซ่าอันเท่าควาย ลาซานญ่า ก็แพงนะ สิบกว่าเหรียญแน่ะ ก็เมืองท่องเที่ยวนี่นะ อาหารก็รสชาดแค่พอใช้ได้น่ะนะก็ไม่ได้กินที่อิตาลี่นี่หว่า เราต้องคำนวณกันด้วยว่าควรจะทิปเท่าไหร่ดี เพราะว่าเรามาจากญี่ปุ่น เมืองที่ไม่มีทิป

เนื่องจากไม่ได้นอนเลย คืนแรกฉันหัวถึงหมอนก็นอนสลบ ตื่นสิบโมงได้ วันที่สองนี่เที่ยวสนุกมาก เดี๋ยวมาเล่าต่อพร้อมรูปประกอบ

previous - next