diaryland archives guestbook

Links Hinghoi Moo+ Nitchawan P'Puk Peerada Evil

27.12.2002 - 5:04 p.m.

วันคริสมาสต์

ถ้าที่แล้วมาฉันเคยบอกว่าเรื่องของฉันน่าเบื่อ นั่นมันอาจจะไม่เป็นความจริงเมื่อเทียบกับวันนี้ ถ้าใครไม่อยากอ่านเรื่องน่าเบื่อก็ข้ามวันนี้ไปเลยนะ

วันที่ 25 ฉันก็ไปโรงเรียนตามปกติ ฉันรู้สึกเริงร่ามากเพราะว่าคุยกับอาจารย์แล้ว ยังไม่ต้องส่งวิทยานิพนธ์ในเดืิอนนี้ตามเดทไลน์ อาจารย์อยากให้ทำงานเพิ่ม แล้วก็มีเปเปอร์เพิ่ม รวมทั้งไปพรีเซนต์ต่างประเทศเพิ่มด้วย ก็ดี ฉันดีใจมาก

อาจารย์บอกว่าฉันเป็นเคสแรกของคณะ ที่สอบดีเฟนซ์ผ่านแล้ว มีสิทธิส่งวิทยานิพนธ์ได้ภายในเดือนธันวา แต่ว่าไม่ส่ง ตอนแรกอาจารย์ก็เลยไม่แน่ใจว่าจะเอายังไงดี ฉันถามอาจารย์ว่าแล้วลูกศิษย์อาจารย์ที่ว่าจบ 3ปีครึ่งล่ะ ไม่เหมือนกันเหรอ อาจารย์บอกว่าไม่เหมือนกัน รายนั้นสอบดีเฟนซ์ไม่ผ่าน เลยไม่มีสิทธิส่งเดือน 12 ต้องไปสอบใหม่อีกที ฉันเลยค่อนข้างดีใจจัง ว่าฉันโชคดีจังเลยที่สอบครั้งเดียวผ่าน ตอนแรกนึกว่าสอบดีเฟนซ์นี่มันง่ายๆซะอีก แบบว่าใครๆก็ผ่าน เลยไม่ได้เตรียมตัวแบบเกร็ง มีการหนีไปเที่ยวเกียวโตด้วย ถ้ารู้ว่ายากตอนแรก อาจตกอกตกใจ สอบตกก็ได้

เนื่องจากว่างขึ้นมาแล้ว ก็เลยไปเดินห้าง กะว่าจะไปซื้อนาฬิกาข้อมือให้เป็นของขวัญมาสะ แต่ว่า คิดไปคิดมา กลัวเค้าไม่ชอบ เลยซื้อกระเป๋าสตังค์ให้เค้า ลงทุนสุดเดชซื้อของ Paul Smith มันก็แพงอิ๊บอ๊าย แต่ว่ามันดีไซน์ไม่เหมือนใครดี พอซื้อแล้วก็เอาไปให้มาสะ เค้าก็ดีใจมาก แต่ฉันก็บอกเค้าไปว่าที่จริงอยากให้นาฬิกา แต่ว่ากลัวเธอไม่ชอบ แล้วก็อธิบายให้เค้าฟัง ที่จริงมันเป็นนาฬิกาที่อยากซื้อให้เค้านานแล้วล่ะ ตอนแรกที่ไปฮอกไกโดฉันกับแอนเห็นแล้วชอบเลยยุให้แอนซื้อ ตอนนั้นก็คิดจะซื้อให้มาสะด้วยเหมือนกัน แต่ว่าโทรถามเค้าบอกว่าไม่เอา ก็เลยไม่ซื้อ ตอนนี้แอนใส่มาเกือบสองปีแล้ว ก่อนหน้านี้ไปเจอนาฬิกานี้อีก แอนก็บอกให้ซื้อให้มาสะเป็นของขวัญคริสมาสต์ดิ ฉันก็เห็นด้วย ไปมาดันไปซื้อกระเป๋าตังค์

คริสมาสต์ทีไร มาสะจะให้อะไรๆฉัน ฉันให้แค่การ์ดเค้าเอง แล้วเค้าก็ไม่ค่อยซื้อของให้ตัวองด้วย แต่ว่ากับคนอื่นเค้าจะใจดี อย่างเสื้อผ้าก็จะใส่เก่าๆซ้ำๆ ไอ้ฉันก็ผิดกันเลยจะซื้อโน่นซื้อนี่ ชอปปิ้งบ่อยมากเลย พอคุยเรื่องนาฬิกาแล้วเค้ามีทีท่าอยากได้ ฉันเลยบอกว่าฉันจะซื้อให้อีกอัน เป็นของขวัญ 2 ชิ้น ก็เลยชวนกันไปที่ร้าน พอเห็นนาฬิกาเค้าก็ชอบมาก ตัดสินใจเลย (แต่ว่าฉันเบิกเงินไป 3 หมื่นเยน ซื้อของสองชิ้นมันไม่พอ เลยต้องเอาเงินแกเพิ่มด้วย) ตกลงก็เลยได้ซื้อนาฬิกาที่อยากซื้อให้มาสะมาสองปีแล้วให้เค้าซักที แต่ว่าเราสองคนตังค์เกลี้ยงกระเป๋า ไม่มีเงินกินทงคัตสึที่อยากกินเลย ;_;

เมื่อวานนี้ฉันก็ตื่นขึ้นมาปวดหัว เวลาหน้าหนาว บางทีฉันจะเป็นไข้ ทำให้ปวดหัว ฉันเลยนอนอยู่บ้านช่วงเช้า พอสายๆ ฉันเริ่มคันไม้คันมือ อยากถักไหมพรม (ฉันว่าฉันเหมือนแมวว่ะ ชอบเล่นไหมพรม) ผ้าพันคอที่ถักค้างๆไว้ ที่บอกว่ากะจะทำให้มาสะ มันเป็นลายเรียกว่าโดมิโน่ มันต้องถักให้เป็นสี่เหลี่ยม แล้วเอามาต่อกัน ลายที่ฉันทำเป็นสีดำ มีตรงปลายสี่เหลี่ยมเป็นสีขาว จะต้องเปลี่ยนไหมบ่อยมาก ทำแล้วท้อน่ะ ทำสี่เหลี่ยมชิ้นนึงกินเวลา 15 นาที (ปกติฉันถักเร็ว อย่างถักผ้าพันคอธรรมดาิอันนึง ทำวันเดียวก็เสร็จ) แล้วมันต้องทำยาวมาก เพราะว่าลายมันซ้อนทับ เรียกว่าเบื่อก่อนเสร็จดีกว่า

และแล้ว ฉันก็เลยไปที่ร้านไหมพรม ซื้อไหมใหม่มาถัก ไหมที่ฉันชอบนี่มันก็แพงเว่อร์อีกแล้ว ก้อนละตั้ง 800 กว่าเยน(เป็นเงินไทยก็ 300 บาท) ต้องใช้ไหม 5 ม้วน สรุปคือซื้อเอาถูกกว่าหรือพอกัน แต่ว่าไม่มัน อดถัก เลยทุ่มทุนซื้อมาสองม้วนก่อน เดี๋ยวปีใหม่เค้ามีลดราคาค่อยซื้ออีกที(ถ้าทำใจรอได้) ปีใหม่ว่างๆ ถักไหมพรมสนุกที่สุดเลย

ฉันจะไปเที่ยวบ้านมาสะด้วย สิ่งที่เอาไปคือ ไหมพรมไปถัก โน๊ตไปเล่นเปียโน หนังสือนิยายฝรั่งและนิตยสาร และก็เอาเกมส์ monopoly ไปเล่นด้วย แต่ว่าก่อนไป ต้องทำความสะอาดบ้านก่อน คนญี่ปุ่นมีธรรมเนียมต้องเก็บกวาดบ้านก่อนปีใหม่ ส่วนปีใหม่ทำอะไรบ้าง เดี๋ยวมาเล่าปีใหม่ ทุกๆคน Yoi Otoshi Wo

previous - next